เสียงเจ้าสัวทำให้ย้งรู้สึกตัว ย้งตัวเกร็งพยายามจะพูดกับเจ้าสัว พยาบาลเข้ามาบอกว่ามีญาติคนไข้มาเยี่ยม เจ้าสัวดีใจมองหาอยู่ไหน พยาบาลตอบว่ากำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่ เจ้าสัวรออย่างใจระทึก ญาติที่เข้ามาเป็นปิ่น เจ้าสัวมองอย่างครุ่นคิดว่าเคยรู้จักมาก่อนหรือเปล่า ปิ่นกลับถามเจ้าสัวว่าเป็นญาติของย้งหรือ เจ้าสัวร้องเอ๊ะ...ต่างก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นญาติ
ม่านมัสลินยังต้องการไปที่บ้านเก่า แต่เกรงว่าจะพูดกับแปะไม่รู้เรื่อง คิมก็ไม่ว่างจึงตัดสินใจมาหากานนที่บริษัท เธอโทร.ขึ้นไปหาเขาเพื่อบอกว่าตนอยู่หน้าบริษัท กานนกำลังวุ่นกับการสั่งงานเลขาฯเพื่อจะไปตามเจ้าสัวแล้วรีบกลับมาประชุมอีก จึงให้เลขาฯช่วยรับแทน พอเลขาฯเอ่ยชื่อม่านมัสลิน กานนก็ทิ้งทุกอย่างคว้าโทรศัพท์มาพูดทันที
กานนให้ม่านมัสลินขึ้นมาพบเขา เขาดีใจมาก เธอเปิดประเด็นทันทีว่าที่มานี่เพื่อจะถาม
“คุณพูดภาษาจีนได้มั้ย” เห็นกานนหัวเราะก็ไม่พอใจ “ขำอะไร...”
“ไม่ได้ขำ แต่แค่งงว่าคุณอ้ำๆอึ้งๆอุตส่าห์ขับรถมาหาผมถึงที่นี่ก็เพื่อจะถามผมเรื่องแค่เนี้ย โทร.ถามเอาก็ได้”
“อ้อ คุณจะว่าฉันทำให้คุณเสียเวลาสินะ” ม่านมัสลินลุกขึ้นจะกลับ
กานนจับมือเธอไว้ “ไม่ใช่ยังงั้น โฮ้ย คุณนี่ชอบตีความคำพูดคนอื่นผิดๆอย่างนี้เสมอเลยรึเปล่า หึ ที่ผมพูดน่ะผมหมายถึงคุณนั่นละที่เป็นฝ่ายเสียเวลามาหาผม”
“ตกลงจะตอบฉันมั้ย ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรฉันจะได้กลับ” ม่านมัสลินแกะมือเขา
กานนยื้อไว้ให้บอกก่อนว่าถามทำไม ม่านมัสลินตาเขียวใส่ กานนจำยอม รับว่าเขาพูดจีนได้มีอะไรหรือ ม่านมัสลินอ่อนลงบอกว่าเรื่องคุณตาของตน กานนกระตือรือร้นทันที
“ผมคิดว่าคุณจะลืมไปซะแล้ว”
“ฉันจะลืมได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นเรื่องของครอบครัวฉันแท้ๆ”
“ผมหมายถึงว่าที่ผมเคยเสนอตัวจะช่วยคุณเรื่องนี้ แต่คุณก็ดูจะเฉยๆ”
“อันที่จริงฉันก็ยังยืนยันเจตนาเดิมนั่นแหละ ฉันไม่อยากเอาตัวมาใกล้คุณให้มันเกิดปัญหา แต่ที่มาที่นี่ก็เพราะคุณคิมเขาไม่ว่างช่วยฉันเหมือนคราวก่อน”
“อ้อ ผมเลยกลายเป็นตัวสำรองว่างั้น”
ม่านมัสลินค้อนอยากคิดอย่างนั้นก็ตามใจ กานนยกมือสงบศึกยอมรับว่าเถียงกับเธอก็มีแต่แพ้ ม่านมัสลินเล่าถึงวันที่ตนไปบ้านหลังนั้น แล้วโดนแปะไล่ออกมา กานนนึกขำเกทับว่าทีหลังไม่ต้องไปให้คิมช่วย ม่านมัสลินยิ้มยื่นมือไปสัญญาว่าเรื่องย่าเล็กของเขาตนจะช่วยเช่นกัน กานนจับมือเธอเชกแฮนด์แล้วพูดภาษาจีนว่า...หว่ออ๊ายหนี่...ม่านมัสลินทำหน้าเหวอ
“ก็นี่ไงผมพูดภาษาจีนให้ฟัง อยากรู้มั้ยแปลว่าอะไร”
ม่านมัสลินส่ายหน้าอมยิ้มเพราะรู้อยู่แล้ว ทั้งสองสบตา กุมมือกันด้วยความรัก พลันอุษยาเปิดประตูเข้ามาเห็นภาพนั้นคาตาก็โวยลั่น สองคนผละออกจากกัน อุษยาจ้องม่านมัสลิน
“คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาเหยียบที่นี่ อยากลองดีกับฉันใช่มั้ย”
ม่านมัสลินไม่อยากมีเรื่องขอตัวกลับ เผอิญมือถือดัง อุษยายังด่าปาวๆ ม่านมัสลินมองมือถือเห็นชื่อแม่ก็ตัดสายแต่สายไม่หลุด เสียงด่าของอุษยาจึงดังเข้าไป จิรดาตกใจได้ยินเต็มหู
“คงคิดว่าตัวเองเก่งซะเต็มประดา นอกจากจะชั้นต่ำแล้วยังโรคจิต คิดเหรอว่าไอ้แผนละโมบจะรวบทั้งอาทั้งหลานของเธอมันจะสำเร็จ คงได้วิชาต่ำๆมาจากแม่เธอสินะ”
กานนปรามอุษยาอธิบายว่าม่านมัสลินมาที่นี่เพราะมีธุระกับเขา อุษยาเอ็ดตะโรว่าแล้วกานนต้องไปกับมันหรือ ทิ้งเรื่องที่โรงพยาบาลและการประชุมหมดเพราะแม่คนนี้หรือ กานนโอบอุษยาให้นั่งลงแล้วส่งสายตาให้ม่านมัสลินออกไปก่อน อุษยาโวยไล่หลังว่าตนยังด่าไม่จบให้กลับมา แล้วหันมาเล่นงานกานนเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าตนที่เลี้ยงเขามาเป็นยิ่งกว่าแม่
จิรดาเดือดปุดๆที่ได้ยินเสียงด่าม่านมัสลินและกระทบถึงตนด้วย...
ooooooo
คิมนั่งรถแท็กซี่มาที่สตูดิโอของศิธา มีการ์ดหน้าดุคุมอยู่สามสี่คน เขาวางท่าเดินเข้าไปเพราะเขาก็เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์เข้าไปได้ เผอิญการ์ดคนหนึ่งจำคิมได้ เพราะตอนมาทำงานใหม่ๆคิมเคยสอนภาษาจีนให้เขาแลกกับให้เขาสอนภาษาไทยคืน ดุสิตโทร.เข้ามาถามอย่างเป็นห่วง คิมบอกว่าเขาผ่านเข้ามาได้แล้วกำลังจะไปที่ห้องตัดต่อซึ่งเก็บเทปไว้มากมาย
ขณะที่คิมเลือกเทปเปิดดูไปหลายเทป ดุสิตโทร.เข้ามาอีก คิมบ่นว่าทำให้เขาเสียเวลา ดุสิตเป็นห่วงบอกคิมไม่ให้วางสาย ให้เขาได้รับรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างจนกว่าคิมจะกลับออกมา พลันคิมก็สะดุดตากับเทปม้วนหนึ่งเป็นหนังแอ็กชั่น แต่ภาพตอนหนึ่งและแบ็กกราวนด์เหมือนในคลิป เพียงแต่ผู้หญิงที่หน้าไม่เหมือนม่านมัสลิน คิมร้องว่าเจอแล้ว เขารีบดึงเทปมาสอดในเสื้อ แล้วรีบกลับออกไป ระหว่างนั้นการ์ดข้างนอกเริ่มสงสัยที่เขาหายเข้ามานาน ตามเข้ามาดู คิมออกไปขึ้นแท็กซี่คันที่ให้จอดรอได้ทัน คิมบอกดุสิตว่าเขาออกมาแล้วและวางสาย
แต่ไม่ทันที่รถจะเคลื่อนออกนอกบริษัท ชายฉกรรจ์หลายคนก็มายืนขวาง โชเฟอร์ตกใจถามคิมจะให้เขาทำอย่างไร คิมเอาเทปออกมาซ่อนใต้เบาะรถ สั่งโชเฟอร์
“ไปจากที่นี่ กลับไปที่เดิมที่คุณรับผมมา แล้วเอาของใต้เบาะให้กับคนชื่อดุสิต จำชื่อไว้นะ ชื่อดุสิต คนเดียวเท่านั้น” คิมสั่งเสร็จก็เปิดประตูรถลงไปท่ามกลางวงล้อมชายฉกรรจ์เหล่านั้น
ooooooo
ทั้งพัดและแป้นได้ยินเสียงด่าว่าของอุษยาทางโทรศัพท์ ทั้งสองรอม่านมัสลินกลับมาเห็นเธออ่อนเพลียล้มตัวลงนอนที่โซฟา ต่างก็รีบหาน้ำมาเสิร์ฟ ผ้าเย็นมาให้และนั่งพัดวีให้ ม่านมัสลินแปลกใจเกิดอะไรขึ้น แป้นอดไม่ได้ สาธยายหมดเปลือกแถมบอกว่าจิรดาออกไปเอาเรื่อง
ม่านมัสลินตกใจคว้ามือถือมากด แต่จิรดาปิดเครื่อง เธอร้อนใจจะออกไปตาม กุเทพโทร.เข้ามาพอดี ได้ยินน้ำเสียงม่านมัสลินตื่นเต้นจึงกระเซ้า
“อย่าบอกนะว่ากำลังคิดถึงพี่อยู่เลยตื่นเต้นที่พี่โทร.มา ฮ่ะๆแต่แหมใจตรงกันทั้งคุณแม่คุณลูกเลยนะเนี่ย”
“พี่กุหมายความว่ายังไงคะ ทั้งแม่ทั้งลูก”
“ก็พี่จะโทร.มาถามมัสเนี่ยแหละว่าล่าสุดได้คุยกับคุณแม่เมื่อไหร่ ไม่รู้ป่านนี้ถึงบ้านพี่หรือยัง โทร.ไปก็ติดต่อไม่ได้”
“บ้านพี่กุ...แม่มัสเนี่ยนะคะกำลังไปบ้านพี่กุ”
“ใช่ คุณแม่มัสโทร.มาถามทางไปบ้านพี่ เห็นว่าซื้อแกงทวายชาววังมาก็เลยจะแวะเอาเข้าไปฝากไว้ให้พี่”
ม่านมัสลินตั้งสติได้รีบบอกกุเทพแค่นี้ก่อนนะ แล้วควานหากุญแจรถจนต้องเททั้งกระเป๋าออกมา พัดช่วยหยิบกุญแจรถส่งให้ เธอลนลานออกไปอย่างเร่งรีบ...
บ้านรัตนรัช จิรดาถือถุงแกงเดินเข้ามายืนอยู่กลางห้องโถง มองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจในความโอ่โถง จิรดา
บอกแม่บ้านว่าคุ้นเคยกับคนที่นี่ดี มาขอพบอุษยา แม่บ้านไปตามอุษยาลงมา อุษยามองจิรดาหัวจดเท้า ว่าเคยรู้จักกันมาเมื่อไหร่ ก่อนจะถามว่ามาพบตนหรือ
“แล้วคุณใช่คุณอาหญิงของคุณกานนมั้ยล่ะ” จิรดาถามอย่างไม่หวั่นเกรง
“ฉันนี่ละอุษยา เป็นอาของกานน คุณมีธุระอะไร แล้วคุณเป็นใคร”
“อ้อ งั้นก็ถูกคนล่ะ ไม่ต้องมารู้หรอกว่าฉันเป็นใคร ฉันแค่จะมาดูน้ำหน้าของนังพวกคนชั้นสูงที่จิตใจต่ำ แล้วก็ชอบเที่ยวไปด่าว่าคนอื่น เพราะนึกว่าเขาจะต่ำเหมือนตัวก็แค่นั้น”
อุษยาเต้นผางชี้หน้า “เธอเป็นใคร กล้าดียังไงเข้ามาบ้านฉัน แล้วมาด่าใส่หน้าฉันเนี่ย”
“กล้าแบบไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าวันนี้จะตบปากสั่งสอนผู้ดีปากบอนที่เที่ยวด่าฉันทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แกด่าฉันว่าใช้ชีวิตต่ำๆ สอนลูกให้ไล่จับผู้ชายใช่มั้ย”
อุษยาพยายามปะติดปะต่อแล้วสะดุ้งเฮือก “อ้อ ที่แท้เธอก็เป็นแม่นังมัสลินผู้หญิงหยำฉ่าหึ...ไม่น่าต้องคิดนานเลย บุคลิกต่ำๆแบบนี้คงไม่มีใคร แม่ต่ำได้ขนาดนี้นี่เอง ลูกถึงได้ขนาดนั้น”
จิรดาพุ่งเข้าใส่อุษยา แม่บ้านมาขวาง จิรดาโวยให้ ตัวต่อตัว เจ้าสัวเดินเข้ามาพร้อมกานนแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น อุษยาสั่งกานนเรียกคนมาลากตัวจิรดาออกไป กานนตั้งสติได้ยกมือไหว้จิรดา อุษยาโวยวายที่ไปนับญาติด้วย ไล่ตะเพิดให้จิรดาออกไป เจ้าสัวสวนขึ้นทันควัน
“เฮ้ย ฉันยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน ตะโกนข้ามหัวกันอย่างนี้น่ะเรอะ” แล้วหันไปถามจิรดาว่ามีอะไรให้เล่าให้ฟังหน่อย
จิรดาถึงกับงงงันที่เจ้าสัวไม่เข้าข้างลูกตัว...จิรดาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าอุษยามาด่าตนทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน อุษยาโวยวายอย่าไปฟัง เจ้าสัวหันไปเอ็ดว่าอยากมีเรื่องกับตนด้วยหรือ อุษยากรี๊ด
“เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว ถูกหน้าถูกชะตากันนักไม่ชวนให้อยู่ด้วยกันซะเลยล่ะ อ๊าย...ฉันอยากจะบ้า” พูดจบสะบัดหน้าจะไป เจอม่านมัสลินเข้ามาก็กรี๊ดอีกหน “นี่พวกแก เดี๋ยวนี้คิดจะเข้านอกออกในบ้านฉันก็ทำได้ตามอำเภอใจเลยใช่มั้ย ว่าแล้วยังทำยืนเฉย หลีกไป๊”
อุษยากระแทกไหล่ม่านมัสลินไป ม่านมัสลินวิ่งเข้าหาจิรดา กานนรีบบอกว่าไม่มีอะไรรุนแรงอย่างที่เธอคิด เจ้าสัวรับรองว่าตนอยู่ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรแม่เธอได้ ม่านมัสลินงง ยกมือไหว้เจ้าสัว จิรดาชวนเธอกลับแล้วสวัสดีลาเจ้าสัว
“คุณจิรดาคุยสนุกดี ว่างก็เชิญที่บ้านอีกนะครับ” เจ้าสัวยิ้มต้อนรับ
กานนทำหน้างงกับคำชมประหลาดๆของเจ้าสัว จิรดาตอบว่า ตนคงไม่มาอีกแล้ว ขอบคุณที่เมตตา ม่านมัสลินกับกานนมองหน้ากันงงๆไม่เข้าใจว่าสองคนเข้ากันได้อย่างไร
ooooooo
กุเทพเช็กสต๊อกอยู่กับลูกน้องที่ร้านเพชร สั่งลูกน้องเสร็จแล้วให้ปิดร้าน จัดการสรุปยอดของเดือนนี้ให้เสร็จคืนนี้ แล้วนึกได้ถามลูกน้องว่าสองสามวัน มานี่ พินสุดาเข้าร้านบ้างหรือเปล่าขาดคำ พินสุดาพรวดพราดหน้าตื่นเข้ามา กุเทพถามรู้ด้วยหรือว่าเขากำลังตามตัวอยู่
“กุรู้เรื่องยัยเดียร์แล้วเหรอ” พินสุดาย้อนถาม
กุเทพรีบถามว่าเกิดอะไรกับมธุริน พินสุดาดึงกุเทพออกมาห่างจากลูกน้องแล้วจึงบอกว่า มธุรินหายตัวไป กุเทพไม่เชื่อกลับย้อนว่าให้ระวังตัวไว้ เรื่องคลิป ต้นสังกัดกำลังจะดำเนินคดี
“ก็เรื่องนี้นั่นล่ะ ที่ทำให้ยัยเดียร์หายหน้าไปอย่างนี้ แล้วก็พูดว่าจะฆ่าตัวตาย”
กุเทพจะแย้ง พินสุดาเอามือถือมาเปิดเสียงมธุรินฝากข้อความ “กิ๊บทำไมเธอไม่รับสายฉัน ฉันทนไม่ไหวแล้วกิ๊บ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันทำอะไรลงไป ฉันจะมีหน้าอยู่ในสังคมนี้ต่อไปได้ยังไงถ้าคนเขารู้ว่า...ว่าเรื่องทั้งหมดมัน...”สัญญาณตัดไป
กุเทพตะลึงหาว่าพินสุดาโกหก เธอโอดโอยว่าได้ยินเต็มสองหูยังไม่เชื่อ กุเทพชั่งใจก่อนจะลุกพรวดออกไป พินสุดา ตามออกมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งคู่ในรถ กุเทพไล่ให้ลงไป
“ถ้ากิ๊บลงแล้วกุรู้เหรอคะว่าจะไปตามยัยเดียร์ได้ที่ไหน” พินสุดาลอยหน้าลอยตา
กุเทพข่มอารมณ์ถามว่าเธอรู้หรือ พินสุดาว่าในโลกนี้ มธุรินคบกับใครบ้างมีแต่ตนที่รู้ กุเทพให้บอกมาให้หมด
พินสุดาทำเชิดจะลงจากรถ กุเทพจำต้องกดล็อกประตูและให้บอกทางไป
สองแม่ลูกพากันมาบ้านสวน จิรดาจัดแจงเอาแกงที่ซื้อไปฝากกุเทพใส่จานตั้งโต๊ะ
“แกงชาววัง อร่อยนะ แม่กินสิ”
ม่านมุกแปลกใจที่วันนี้ซื้อของมาฝาก จิรดาบอกทานไปอย่าถามมาก ตนกำลังอารมณ์ดี
“ไม่ต้องถึงกับบังคับกันหรอก ที่แม่ถามน่ะก็เพราะดีใจ นานๆจะเห็นแม่ดาซื้ออะไรมาให้แม่ซะที ขอบใจนะลูก แกงนี่เขาเรียกแกงทวายชาววัง หาทานยากนะ ถ้าแม่ดาน่ารักยังงี้ทุกวันแม่คงสบายใจ ขอบใจนะลูกนะ”
จิรดาเริ่มเก้อเขิน “ขอบอกขอบใจอะไรกันนักหนาแม่ อ้ะ...หนูจะบอกความจริงให้ก็ได้ว่าจริงๆแล้วน่ะหนูก็แค่เอาแกงมาบังหน้าเล่นงานคนเท่านั้นแหละแม่ จัดการเขาเสร็จจะทิ้งไว้ให้เขากินก็เสียดาย ของดีๆเลยสั่งนังมัสให้หยิบออกมาด้วย”
ม่านมุกตกใจว่าไปเล่นงานใครมา แล้วเกี่ยวอะไรกับม่านมัสลินด้วย จิรดาบ่นเรื่องมันยาวแล้วสาธยายให้ฟัง ตนไม่คิดว่าจะเจอเจ้าสัวและกานน ม่านมุกยิ่งตกใจถามไม่ถูกรุมแย่หรือ
“ที่ไหนได้ล่ะแม่ หนูก็งงเหมือนกันนะ นึกว่าเขาโผล่มาแล้วจะเข้าข้างลูกสาวเขา นี่กลับกลายเป็นมาเข้าข้างคนอื่นอย่างหนู แล้วก็ช่วยหนูสมทบด่ายัยอาหญิงอะไรนั่นซะอีก เล่นเอาสะบัดก้นออกไปไม่ทันเลย สมน้ำหน้า”
“อืม ท่านน่าจะเป็นคนที่ยุติธรรมพอสมควรทีเดียวนะคุณเจ้าสัวเนี่ย ว่าแต่เราคราวหลังมีเรื่องมีราวหัดปล่อยๆมันไปซะบ้าง ไปบุกบ้านคนอื่นเขาแบบนี้มันอันตราย”
ม่านมัสลินยิ้มเข้ามากอดม่านมุก “วันนี้ผู้จัดการมัสทำงานดีมากเลยค่ะคุณยาย ไปเล่นงานคนแทนมัสซะอยู่หมัดเลย”
“พอกันเลยแม่ลูกน่าหยิกนักเชียวนะยัยมัส ไม่เอาลูกอย่าทำตัวนักเลงแบบนี้ไม่น่ารักเลย”
จิรดาโวยเล็กๆว่าแม่ดุต่อหน้าลูกแบบนี้ ลูกที่ไหนจะเคารพแม่ ม่านมุกหัวเราะสอนว่า คนเราจะน่าเคารพหรือไม่อยู่ที่การทำตัว พลันโทรศัพท์บ้านดังขึ้นขัดจังหวะ จิรดาร้อง โอว...ขอบคุณที่ระฆังช่วย แล้วขอตัวไปรับสาย ม่านมุกส่ายหน้ายิ้มๆไม่ทันไร จิรดาหันมาบอกทั้งสองคนว่า ทางโรงพยาบาลโทร.มาบอกว่าย้งอาการทรุดหนัก ม่านมุกถึงกับเข่าอ่อน
ooooooo
เจ้าสัวจัดการให้คนมาเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ในบ้านทั้งหมด และสั่งคนเฝ้าทุกเบอร์ไว้ อุษยาไม่พอใจเอะอะใส่คนงานที่มายกโทรศัพท์ที่ตนซื้อหามาออก กานนต้องมาไกล่เกลี่ยว่าเป็นคำสั่งเจ้าสัว อุษยาโกรธบอกกานนว่าสักวันตนจะออกไปจากบ้านนี้ เจ้าสัวเข้ามาโวย
“โว้ยจะไปไหนก็ไป ฉันรำคาญเสียงแหลมๆของแกเต็มที”
กานนขอให้สงสารอาหญิงของเขาบ้าง เจ้าสัวว่าจะสงสารทำไม แค่นี้ยังน้อยกว่าที่ทำไว้กับย่าเล็ก กานนโอดโอยว่าเรื่องย่าเล็กอีกแล้ว เขารับปากจะสืบหาให้ได้ เจ้าสัวแปลกใจ ทำไมญาติของย้งไม่โทร.กลับมาหาเขาบ้าง กานนจึงบอกว่า เขาจะไปเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้พยาบาล ว่าเราเป็นใครต้องการติดต่อย้งเรื่องอะไร ดีไหม ขอปู่อย่าเครียด...
ม่านมัสลินพาม่านมุกมาดูย้งที่โรงพยาบาล จิรดาตามมาด้วย ม่านมุกเข้ามากุมมือย้งพร่ำบอกอย่าเป็นอะไร เขาต้องหาย แต่ย้งพยายามที่จะพูด ท่าทางเขาเหนื่อยมาก
“เจ้า...สัว...เจ้า สัว ตามหาคุณ...นาย ผมเจอ...เจ้า สัว” อาย้งหอบหายใจแรง เครื่องวัดต่างๆส่งเสียง พยาบาลกับหมอวิ่งเข้ามา เชิญญาติออกไปรอข้างนอก
ม่านมุกร้องไห้สงสารย้ง เวลาผ่านไป หมอออกมาบอกทุกคนว่า คนไข้สิ้นลมแล้ว ม่านมุกทรุดนั่งน้ำตาไหลริน จิรดาแปลกใจทำไมแม่ต้องเสียใจขนาดนี้
ooooooo
กุเทพขับรถมาถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ตามคำบอกของพินสุดา เขาเอะใจว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก พินสุดารู้แกวบอกเขาว่า ตนกับมธุรินเป็นเมมเบอร์ที่นี่ด้วยกัน คนอย่างมธุรินไม่มีที่จะไปสักเท่าไหร่หรอก กุเทพจึงยอมขับรถเข้าไปอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก
ขณะเดียวกัน บัวบงกชคิดถึงมธุริน เข้ามานอนร้องไห้อยู่ในห้องลูก เตชโผล่เข้ามาเพราะคิดถึงลูกเช่นกัน เตชตำหนิบัวบงกชว่าเป็นแม่แต่ทำไมไม่รู้ว่าลูกหายไปไหน บัวบงกชรู้สึกมึนหัวไม่โต้เถียง เตชจึงอ่อนลงบอกเธอให้เข้าใจเขาหน่อย เขาเป็นห่วงลูกพอๆกับเธอ เตชกดมือถือ
“ผมจะแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหา แล้วเดี๋ยวจะโทร.สั่งลูกน้องให้ช่วยกันตามอีกแรง”
บัวบงกชห้ามเกรงเรื่องราวใหญ่โต ตนจะลองโทร.ถามกานนก่อน เตชแย้งว่าเพราะกานนลูกถึงเป็นแบบนี้
“คุณจะคิดยังไงก็สุดแล้วแต่คุณเถอะค่ะ ยังไงยัยเดียร์ก็ลูกฉันทั้งคน ขอฉันจัดการในวิธีของฉันก่อน ถ้ามันไม่ได้เรื่อง คุณจะทำยังไงฉันจะไม่ขัด”
เตชนิ่งไปไม่ตอบอะไร...
ม่านมัสลินขับรถมาส่งจิรดาที่บ้านแล้วจะกลับไปจัดการเรื่องศพของย้งที่โรงพยาบาล จิรดาแสดงความเป็นห่วงเพราะเห็นว่าดึกมากแล้วน่าจะไปจัดการพรุ่งนี้ ม่านมัสลินรู้สึกดีใจที่แม่เป็นห่วง ไม่ทันไร กานนขับรถมาจอดหน้าบ้าน จิรดาหันไปมอง กานนยกมือไหว้ เธอถามทันที
“เรามีธุระอะไรกันหรือเปล่าคะคุณ หรือจะตามมาเอาเรื่องฉันแทนอาของคุณ”
ม่านมัสลินปรามแม่ แล้วถามกานนมีเรื่องอะไรรีบพูดมา ตนมีธุระต้องรีบไป กานนบอกว่าตนมาขอโทษที่อุษยาพูดจารุนแรง ม่านมัสลินตอบว่าไม่เป็นไร ตนโดนด่าจนชินแล้ว จิรดาเปรยว่าถึงตนจะไม่ชินเท่าม่านมัสลิน แต่ก็ไม่ติดใจ แล้วเมินหน้าไปบอกม่านมัสลินให้รีบไปรีบกลับ กานนถามทันทีว่าจะไปไหนเขาอาสาไปส่ง จิรดาพูดประชดลอยๆก่อนจะเดินเข้าบ้านว่า
“บอกจะรับจะส่งเองก็ช่วยรับผิดชอบคำพูดตัวเองดีๆ ด้วยนะ ไม่ใช่เดี๋ยวหลังจากนี้ ใครรู้เข้าก็ปล่อยให้เขามาแหกอกยัยมัสเข้าอีก”
กานนยืนอึ้งก่อนจะบอกม่านมัสลินว่า จิรดาคงโกรธมากแล้วผายมือให้เธอไปขึ้นรถ ม่านมัสลินปฏิเสธไม่อยากโดนอุษยาเล่นงานอีก กานนรับรองว่าจะไม่มีแบบนั้นแน่ ว่าแล้วก็ดันเธอไปขึ้นรถ“ไม่ต้องแต่ วันนี้คุณเหนื่อยมาทั้งวัน ผมขับรถให้คุณ จะได้นั่งพักสบายๆ”...
ระหว่างนั่งมาในรถ กานนถามว่าจะไปโรงพยาบาลทำไม ม่านมัสลินตอบว่าญาติเสียต้องมาจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย กานนเอื้อมมือไปกุมมือเธอแสดงความเสียใจ พลัน มือถือเขาดังขึ้น บัวบงกชโทร.มาถามหามธุริน บอกเขาว่าหายตัวไปติดต่อไม่ได้ กานนรับปากจะตามให้ พอวางสายม่านมัสลินเห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดี จึงออกตัว
“ฉันว่า...ฉันลงตรงนี้ดีกว่าค่ะ แท็กซี่เยอะดี คุณจะได้ไปทำธุระของคุณได้สะดวก”
กานนไม่จอดจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อน แต่แล้ว กุเทพโทร.เข้ามา กานนตกใจ “กุ...ว่าไงนะ คุณเดียร์จะฆ่าตัวตาย”
กานนกับม่านมัสลินมองหน้ากันอย่างตกใจ กานนมาถึงโรงแรมให้ม่านมัสลินนั่งรอที่ล็อบบี้ เธอขอไปก่อนแต่เขาไม่ยอม กานนดึงเธอมากอดแนบอกโดยเธอไม่ทันตั้งตัว
“รอผมอยู่นี่นะมัส ผมขอร้องเข้าใจผมนะ เดี๋ยวผมลงมาแล้วจะไปกับคุณที่โรงพยาบาล” กานนไม่รอฟังคำตอบ เขาผละวิ่งไป ปล่อยม่านมัสลินทรุดนั่งอย่างเหนื่อยล้า
กานนวิ่งมาที่ห้องตามที่กุเทพบอก เป็นห้องชุด ได้ยินกุเทพกำลังเคาะประตูห้องนอนเรียกให้มธุรินเปิดประตู พินสุดายืนกอดอกข้างๆเบะปากอย่างหมั่นไส้
“อะไรจะต้องเป็นห่วงกันถึงขนาดนี้ ยัยเดียร์ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงหรอก มากที่สุดก็เรียกร้องความสนใจจากอาปลิว ก็เท่านั้น”
“ผมรู้มาตลอดนะ ว่าคุณน่ะแย่แค่ไหน แต่ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะแย่ขนาดนี้” กุเทพมองพินสุดาอย่างชิงชัง พินสุดาไม่สะทกสะท้านที่โดนด่าสักนิด กุเทพผิดหวังเธอไม่น่าเป็นเพื่อนมธุริน
“ทำไม...มีคำด่าอะไรแรงๆก็คิดหามาด่าซะตอนนี้เลย ใช่สิฉันก็ฉันมันไม่ใช่ผู้หญิงขยันเรียกร้องความสนใจอย่างยัยเดียร์หรือยัยนางแบบกระจอกนั่นนี่”
“ผมอยากรู้นักว่า ผู้หญิงอย่างคุณจะมีผู้ชายที่ไหนเขาทนคุณได้...” กุเทพพูดไม่ทันจบเสียงกานนร้องเรียก กุเทพจึงขอให้กานนช่วยทำให้มธุรินเปิดประตู กานนพยายามเคาะเรียกและบอกมธุรินว่าให้ออกมาคุยกัน มธุรินได้ยินเสียงกานนก็ดีใจ พินสุดาหมั่นไส้ร้องบอกอย่าเล่นตัวนักเลย ตนรู้ว่าเธอทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากกานนเท่านั้น กุเทพเอ็ดพินสุดาอย่าทำให้แย่ลงไปกว่านี้แล้วไล่ให้กลับไป พินสุดาแหวใส่ว่า ใช่สิ ตนหมดประโยชน์แล้ว เชิญหน้าโง่ให้ผู้หญิงออเซาะต่อไปกันเถอะ พินสุดาสะบัดหน้าออกไป กานนเคาะเรียกให้มธุรินออกมาถ้าไม่เปิดตนจะกลับ มธุรินเปิดประตูออกมาโผกอดกานนร้องไห้โฮ
กานนประคองมธุรินมานั่งแล้วถาม “ร้องไห้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ช่วยบอกผมได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นขนาดนี้”
“เดียร์กลัวค่ะกานน เดียร์ทำผิด คุณแม่ก็ไม่เข้าใจ ไม่มีใครเข้าใจเดียร์ ในโลกนี้จะไม่มีใครเข้าใจเดียร์อีกแล้วใช่ไหมคะกานน เดียร์คงจะไปเจอหน้าใครไม่ได้อีกแล้ว”
กานนตะล่อมถามไปทำอะไรมา เผื่อเขาจะช่วยได้ มธุรินอึกอักๆก่อนจะสารภาพว่า เรื่องคลิปม่านมัสลิน ตนเป็นคนทำ กานนชะงักมองหน้าเธออย่างผิดหวัง ทำให้เธอร้องไห้โฮอีกครั้ง...กุเทพโทรศัพท์บอกบัวบงกชว่าพบตัวมธุรินแล้ว บัวบงกชโล่งอก ขอคุยกับกานน
“ครับคุณอา เรียบร้อยแล้วครับ อีกสักพักผมจะพาคุณเดียร์ไปส่งให้ที่บ้าน...ครับ ครับ ไม่ต้องห่วงครับ สวัสดีครับ” กานนวางสายแล้วหันมาบอกมธุรินให้กลับบ้านกัน
มธุรินขอไม่กลับอยากอยู่กับกานนที่นี่ กานนปลอบว่าเธอโตแล้วต้องมีความรับผิดชอบ กล้ายอมรับเหมือนอย่างที่ยอมรับกับเขา คนอื่นๆก็ต้องเข้าใจและยกโทษให้ มธุรินถามรวมถึงเขาด้วยหรือเปล่า กานนพยักหน้า มธุรินกอดกานนร้องไห้ที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวตน
ม่านมัสลินยังนั่งรอกานนอย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นลิฟต์เปิดออกก็ลุกขึ้นมอง เห็นกานนประคองมธุรินผ่านไปโดยไม่สังเกตเลยว่าตนอยู่ตรงนี้
ooooooo
เหนื่อยอ่อนกลับมาบ้าน ม่านมัสลินกำลังเดินผ่านห้องจิรดา เห็นประตูแง้มอยู่จึงลอดมองเข้าไป ประตูห้องเปิดอ้า จิรดายืนมองแล้วเรียกให้เธอเข้ามา ม่านมัสลินอึกอักไม่กล้าเข้า เพราะตลอดชีวิตตนไม่เคยได้เข้าห้องนอนแม่เลย จึงย้อนถามว่าให้ตนเข้าไปจริงหรือ
“ก็ฉันออกมายืนเชิญแกอยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่เหรอ ตามใจนะ จะเก้ๆกังๆอยู่ตรงนี้ก็ตามใจ” จิรดากลับไปนั่งหน้ากระจก ชำเลืองมองแล้วแขวะ “ทำท่ายังกับเดินเข้าห้องดับจิต หือนังมัส”
ม่านมัสลินเดินเข้ามาตัวเกร็งๆ ถามว่ามีอะไรจะใช้ตน จิรดาตอบว่าไม่มี แค่อยากคุยด้วย ม่านมัสลินรีบบอกว่าจะไปรอข้างล่าง จิรดาเอ็ดให้เลิกทำตัวเหมือนตนเป็นตัวประหลาดเสียที
“มัส...มัสไม่เคยอยู่กับแม่...ในห้องแม่”
“นี่ฉันเป็นแม่ที่แย่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แกเป็นลูก แต่ไม่เคยเข้ามาห้องฉัน...ที่เป็นแม่”
“แม่ มัสไม่ได้คิดอะไรเลย มัส...” ม่านมัสลินรีบเข้าปลอบเมื่อเห็นจิรดาเสียงหม่นเศร้าลง
จิรดาฝืนยิ้มเชิดหน้า “ไม่ต้องมาปลอบฉันหรอก ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน คนอย่างฉันไม่มีใครอยากเข้าใกล้น่ะถูกแล้ว”
ม่านมัสลินคลายความกังวลลงเมื่อเห็นจิรดายิ้ม แต่พอเธอถามเรื่องย้งเป็นอย่างไรบ้าง ม่านมัสลินก็สลดลงตอบว่า พรุ่งนี้ญาติย้งที่อยู่ทางใต้จะมารับศพ จิรดาอดไม่ได้ที่จะถาม
“ตกลงจะมีใครบอกฉันได้รึยังว่าตาย้งกับยายแก เขาเป็นอะไรกัน”
“แม่...”
“ฉันจะพูดอย่างนี้ล่ะ แกจะทำไม พอกันเลยทั้งบ้าน พ้นจากพ่อแกมาฉันคิดว่าจะจบสิ้นกันซะที ไอ้เรื่องลับลมคมใน ที่ไหนได้ ยายแกก็เอากับเขาเหมือนกัน เกิดมีความลับกับเขาขึ้นมามั่ง”
“ไม่ใช่ยังงั้นหรอกค่ะแม่”
“ความลับ...มันน่าค้นหาพอๆกับที่มันน่ากลัว ฉันคนนึงล่ะที่โดนปั่นหัวซะงง เหมือนตัวตลก ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ... แกอยากรู้เรื่องของฉันกับพ่อแกมั้ย” จิรดาไม่สนใจฟังคำตอบของม่านมัสลิน “พ่อแกหลอกฉันเสียสนิท พอแต่งกันแล้วถึงรู้ว่าเขาลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้”
“เท่าที่มัสจำได้ พ่อรักและให้เกียรติแม่จะตายไป”
“แกน่ะคิดไปเอง พ่อแกน่ะเคยรักฉันซะที่ไหน โน่น แม่บัวบงกชดาราไฮโซโน่น ที่เขารักนักรักหนา เขารักกันมาก่อนที่จะมาแต่งงานกับฉันเสียอีก” จิรดายิ่งเล่ายิ่งเจ็บช้ำ
หวนนึกถึงอดีตที่ภาษิตเคยซื้อกระเป๋ามาฝากตน วันต่อมา ตนก็ได้เห็นว่าเหมือนกับกระเป๋าของบัวบงกชที่ถือ
ถ่ายลงแมกกาซีน ตนเจ็บช้ำโวยวาย ภาษิตก็โมโหแล้วออกจากบ้านไป ผ่านไประยะหนึ่ง ภาษิตก็อุ้มเด็กทารกและสัมภาระเข้ามาในบ้าน... น้ำตาจิรดารื้นขึ้นมาเมื่อเล่าถึง ม่านมัสลินเห็นแม่นิ่งไป จึงถามทำไมไม่เล่าต่อ เด็กที่พูดถึงอย่างกับไม่ใช่ลูก จิรดาสะดุ้ง
“โฮ้ย...เรื่องเยอะจริง ถ้าแกไม่ใช่ลูกฉันแล้วจะเป็นลูกใคร ฉันก็มีแกเป็นลูกอยู่คนเดียวนี่ล่ะ นังเด็กโง่”
ม่านมัสลินยิ้มอย่างสุขใจ จิรดาให้ม่านมัสลินไปพักผ่อน แต่อดเตือนทิ้งท้ายไม่ได้ว่า
“แล้วก็เรื่องความรักน่ะ ระวังๆยั้งๆใจตัวเองไว้บ้าง อย่าไปหวังอะไรมากกับเรื่องแบบนี้”
ม่านมัสลินชะงักแววตาสลดลงนึกถึงที่โรงแรม ภาพกานนประคองมธุรินผ่านหน้าตนไปเหมือนเขาได้เลือกแล้ว ม่านมัสลินสะบัดหน้าไปมา บอกแม่ว่าตนไม่เป็นอะไร จิรดารู้ทันดักคอ
“โกหกคนอื่นไปเถอะย่ะ ยังไงฉันก็เลี้ยงแกมา คิดเหรอว่าฉันไม่รู้ว่าแกรู้สึกอะไรยังไง...นังมธุรินคุณหนูมหาประลัยนั่นน่ะ มันต้องโดน ไหนจะเรื่องคลิป แล้วไหนจะเรื่องคุณกานน”
ม่านมัสลินเถียงไม่ออกแต่พอจิรดาจะไปจัดการมธุรินให้ เธอรีบห้ามให้มันแล้วกันไป
ในขณะที่กานนพามธุรินมาส่งบ้าน และพาขึ้นนอนบนห้องตามที่เธอต้องการ แต่เธอยังยื้อให้เขาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะหลับ กานนเห็นยาขวดเล็กๆบนโต๊ะหัวเตียงก็เอ็ด ไหนว่าไม่กินยานี่แล้ว มธุรินก้มหน้างุดราวกับทำความผิด
“ยาคลายเครียดกินเยอะๆมันไม่ดีเดียร์ก็รู้ ติดขึ้นมาจะแย่นะครับ” กานนตำหนิ
“เลิกจ้องหน้าเดียร์ได้แล้วค่ะ เดียร์แค่แอบหยิบทานไปเม็ดเดียวเอง ก็มันนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วนี่คะ”
กานนสงสารจึงสัญญาว่าจะอยู่เป็นเพื่อนจนเธอหลับ และเธอจะไม่ได้กินยานี่อีก เพราะตนจะเก็บมันไว้ กานนถอนใจคิดไม่ตกว่าจะหาทางออกเรื่องนี้ได้อย่างไร
ooooooo
Hello world!
-
Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then
start writing!
The post Hello world! first appeared on pg slot1234
แจกฟรีสูตรเล่น...
1 year ago
No comments:
Post a Comment