Monday, September 19, 2011

อ่านบทละคร ในรอยรัก ตอนที่ 10


เมื่อเห็นว่ามธุรินหลับ กานนจึงย่องออกจากห้องเธอ พบบัวบงกชยืนรออยู่ เขาจึงบอกเธอว่า มธุรินคงหลับลงเพราะฤทธิ์ยาที่แอบกินเข้าไป ว่าแล้วก็ส่งขวดยาให้ก่อนจะลากลับ
บัวบงกชขยับมาดักหน้า “เดี๋ยวสิคะคุณกานน คุณก็รู้ดีว่าอาไม่ได้รอที่จะเจอคุณเพียงเพื่อจะถามว่ายัยเดียร์หลับหรือยัง”
กานนสบตาบัวบงกชอย่างเข้าใจ ทั้งสองลงมานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก บัวบงกชเปิดประเด็นว่า เขาคงรู้เรื่องหมดแล้ว กานนพยักหน้า
“ครับ เดียร์เล่าให้ผมฟัง แต่ผมยังคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะช่วยยังไงดี”
“อาว่าอาจะคุยกับหนูมัสลิน เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดยัยเดียร์คนเดียว ลำพังยัยเดียร์คงไม่คิดทำร้ายใครได้รุนแรงขนาดนี้ หนูมัสลินเป็นคนจิตใจดี คงเข้าใจ”
“ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่าครับคุณอา ผมเห็นด้วยที่ว่ามัสลินเป็นคนจิตใจดี มัสลินอาจไม่เอาเรื่อง แต่คนที่รักและพร้อมเป็นเดือดเป็นร้อนแทนมัสลินมีอีกหลายคน”
“คุณหมายถึงจิรดา...แม่เขา”
“แล้วยังมีคุณเก๋ นายคิม หรือแม้กระทั่ง...นายกุ ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะยอม”
“แล้วคุณคิดว่าพวกเขาจะสืบหาคนทำไหม”
“ผมคงตอบคุณอาไม่ได้ แต่ตอนนี้ทางที่ดีที่สุด เราคงต้องนิ่งแล้วดูเหตุการณ์”
สาวใช้บ้านบัวบงกชแอบฟังการสนทนาเพื่อโทร.รายงานเตช...บัวบงกชจับแขนกานนขอร้อง อย่าเอาเรื่องคลิปไปแพร่งพรายให้ใครรู้อีก กานนกังวลใจว่าเรื่องจะไม่จบแค่นี้
“แต่จะว่ากันตามจริงแล้ว มันก็ไม่ยุติธรรมกับมัสลินเลย”
“อารู้...อาไม่ได้สบายใจ เรื่องนี้มันหนักสำหรับอา หนักเสียยิ่งกว่าหนัก”
เสียงบัวบงกชเครือ กานนตกใจรีบขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดกระทบ เธอส่ายหน้ารำพึง
“ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของอาหรอก ไม่มีใครสักคน...”
กานนมองบัวบงกชอย่างไม่เข้าใจ
ooooooo
เหนื่อยล้ามาทั้งวัน พอได้อยู่คนเดียว ม่านมัสลินทิ้งตัวลงนอนปล่อยน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น ไม่นาน เธอก็รู้สึกมีคนอยู่ข้างเตียง เธอพยายามเพ่งมอง แล้วต้องดีใจเมื่อเห็นภาษิตเข้ามานั่งข้างๆลูบผมเธออย่างอ่อนโยน เธอคว้ามือลุกพรวดขึ้นจ้องหน้าภาษิต
“นี่พ่อจริงๆด้วย พ่อ...มัสคิดถึงพ่อ” ม่านมัสลินซุกหน้ากับอกพ่อร้องไห้สะอึกสะอื้น
“พ่อจำไม่ได้ว่าลูกสาวพ่อกลายเป็นคนขี้แยไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ภาษิตปาดน้ำตาให้
“ตั้งแต่ที่พ่อทิ้งมัสไป มันมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างเกิดขึ้นกับมัส มัสเหนื่อยเหลือเกินค่ะพ่อ มัสไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้ยังไง พ่ออยู่กับมัสนะคะ อย่าทิ้งมัสไปอีก”
“พ่อก็นั่งอยู่นี่แล้วไง มัสมีอะไรอยากเล่าให้พ่อฟังไหมล่ะ”
ม่านมัสลินพยักหน้าแล้วเล่าทุกเรื่องให้ภาษิตฟัง เธอได้รับการปลอบโยนจากภาษิตจนเกิดรอยยิ้มจนกลายเป็นหัวเราะ ภาษิตบอกว่าเห็นไหมหัวเราะออกแล้ว
“จริงด้วยสิคะพ่อ นี่มัสหัวเราะได้ยังไง ในเมื่อมัสยังเศร้าอยู่เลย”
“ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราเองนะลูก ถ้าลูกคิดว่ามันเศร้า ตัวเองก็เศร้า ถ้าจะไม่เศร้าก็ต้องคิดให้ตัวเองสุข...เท่านั้นเองจริงๆ อย่าบอกเลยว่ายาก ถ้าลูกยังไม่ได้ลองทำ” ภาษิตจับไหล่ลูกสาวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ต่อแต่นี้ไป คิดแต่สิ่งดีๆนะลูกนะ มันจะทำให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีกลับคืบจากทุกคน อย่าติดบ่วงความคับแคบของการคิดร้าย คิดแง่ลบ ที่มันจะนำแต่ความทุกข์ใจมาให้ลูก...แล้วที่สำคัญ ลูกต้องเข้มแข็งนะ รับปากพ่อสิ”
“ค่ะพ่อ....”
“ม่านมัสลิน...พ่อรักหนูนะลูก” ภาษิตดึงม่านมัสลินมากอด
ม่านมัสลินพึมพำว่าตนก็รักพ่อ และแล้วเธอก็สะดุ้งตื่น มองไปรอบห้องไม่มีภาษิต จึงรู้ว่าตนฝันไป เธออยากจะร้องไห้แต่แล้วคำเตือนของพ่อให้เข้มแข็งก็ดังก้องในหู จึงอดกลั้นไว้
ooooooo
ยังต้องการถามอีกหลายเรื่อง กุเทพจึงมาส่งพินสุดาที่บ้านเพื่อพูดคุยในรถ แต่เธอกลับดันให้เขาเข้าไปในบ้าน คะยั้นคะยอให้ดื่มกาแฟ
“กิ๊บผมบอกแล้วไงว่า ผมมาที่นี่ไม่ได้จะมากินกาแฟอะไรของคุณ”
“ใจเย็นก่อนสิคะ กิ๊บก็แค่ดีใจที่วันนี้กุยอมเข้ามาที่บ้านกับกิ๊บ เราจะพูดดีๆกันสักนิดไม่ได้เหรอคะ” พินสุดาเริ่มกระบวนยั่วยวนเล้าโลม
กุเทพปัดมือเธอออก “ผมอยากรู้เรื่องที่คุณพูดกับผมตั้งแต่ที่ร้าน เรื่องคลิปของมัส คุณพูดถึงคุณเดียร์ ผมอยากรู้ว่ามันไปเกี่ยวอะไรกับคุณเดียร์ ทำไมต้องถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย”
อารมณ์โกรธของพินสุดาพุ่งพรวด “นังมัสลินมันรู้บ้างมั้ยคะ ว่ากุทำตัวเป็นไอ้โง่ พูดปาวๆใส่กิ๊บอยู่นี่ก็เพื่อมัน”
“พินสุดา...”
“ทำไมคะ...”
“ได้ ในเมื่อคุณไม่บอกผมก็ไม่เป็นไร ผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” กุเทพจะกลับ
พินสุดารีบเปลี่ยนน้ำเสียง ยื้อให้เขาดื่มกาแฟที่ตนแอบใส่ยานอนหลับลงไป แต่กุเทพเหมือนรู้ทันดึงดันจะกลับ พินสุดาโวยวายว่าแค่ทำดีกับตนบ้างไม่ได้เชียวหรือ กุเทพส่ายหน้าเดินหนี พินสุดากันจึงทำให้ถ้วยกาแฟในมือกระฉอกรดเสื้อกุเทพ เธอตกใจรีบถามว่าร้อนไหม
“กิ๊บไม่ได้ตั้งใจ ถอดเสื้อออกก่อนนะคะ”
“ปล่อยผม” กุเทพปัดมือพินสุดาให้พอเถอะ เขาจะกลับ
พินสุดาดึงเขามาที่ห้องน้ำแกล้งเอาน้ำล้างจนเปียกโชก แล้วทำเป็นตกใจจะเอาเสื้อน้องชายมาให้เปลี่ยน กุเทพฮึดฮัดอยู่ในห้องน้ำ เผอิญศิธาเข้ามาเจอพินสุดาถือเสื้อออกมาจากห้อง ก็ต่อว่าตนโทร.มาทำไมไม่รับสาย พินสุดาทำท่าให้เบาเสียงแต่ศิธาไม่สนใจ กุเทพได้ยินเงี่ยหูฟัง
ศิธาโวย “อะไรของพี่เนี่ย รู้บ้างไหมว่าที่สตูฯผมมันวุ่นวายแค่ไหน ลูกน้องผมมันบอกว่ามีคนบุกเข้าไปค้นเทปให้วุ่น”
“นี่เธอเลิกโวยวายได้มั้ย” พินสุดาเหลือบมองไปทางห้องน้ำ
ศิธาไม่สนใจยังโวยวาย “นี่มันเรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆไม่เกี่ยวกับผมเลย บอกไว้ก่อนเลยนะพี่กิ๊บ ถ้าเรื่องคลิปมันแดงขึ้นมา พี่กับโก้จะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ผมไม่เอาด้วยแล้วนะ ยิ่งถ้ารู้ถึงหูป๊าผมขึ้นมา ผมตายแน่”
กุเทพปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ก้าวออกมา “ฉันว่าแล้วว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับพวกแก”
พินสุดารีบกลบเกลื่อนไม่มีอะไรแล้วส่งเสื้อให้ กุเทพปัดออกชี้หน้าศิธา เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าทำร้ายผู้หญิง พินสุดาดันกุเทพให้กลับไปก่อน กุเทพจ้องศิธาอย่างเอาเรื่อง ให้จำไว้ว่าเรื่องนี้เขาไม่ปล่อยไว้แน่ ศิธาโมโหกระชากไหล่กุเทพหันมาแล้วชกเข้าที่ปาก กุเทพเซไป พอตั้งหลักได้ชกกลับทันทีพินสุดาร้องห้าม พีระพลตามเข้ามาเห็นสองคนมะรุมมะตุ้มกันอยู่ก็คว้าแจกันฟาดหัวกุเทพเลือดอาบ พินสุดาตกใจ
“ไอ้โก้นี่แกทำอย่างนี้กับกุได้ยังไง เดี๋ยวนะฉันจะกลับมาจัดการกับพวกแก” พินสุดาประคองกุเทพจะไปหาหมอ พีระพลส่งเสียงตกใจกับอาการศิธาที่ปากแตกหน้าปูด
ออกมาหน้าบ้าน กุเทพสะบัดตัวออกจากพินสุดาตวาดใส่ “เลิกยุ่งกับผมซะที กลับไปอยู่กับพวกเลวๆของคุณเถอะไป”
กุเทพโซเซไปขึ้นรถ พินสุดาโกรธตะโกนไล่หลัง “ถ้าเปลี่ยนจากกิ๊บเป็นนังมัสลิน กุคงไม่ไล่เหมือนหมูเหมือนหมาอย่างนี้สินะ กุรักมันมากขนาดยอมเจ็บตัวเพื่อมันอย่างนี้เลยเหรอ”
“ผมคงไม่เลวพอที่จะทนดูผู้หญิงคนหนึ่งถูกผู้ชายรุมรังแกหรอก ไม่ใช่แค่มัสลินนะที่ผมจะช่วย แต่เป็นผู้หญิงทั้งโลก ยกเว้นคุณ”
“รวมถึงนังเดียร์นังคุณหนูปัญญาอ่อนนั่นด้วยใช่ไหม” พินสุดาตัวสั่นเทาด้วยความแค้น
“คุณเดียร์เป็นเพื่อนคุณแท้ๆนะกิ๊บ...คุณนี่มัน...”
“หึ กิ๊บรู้แล้วล่ะที่คุณทำนี่ ถ้าไม่ใช่เพื่อมัสลินก็ต้องนังเดียร์ บอกมาสิว่าไม่ใช่”
กุเทพมองพินสุดาอย่างเกลียดชัง ก่อนทิ้งประโยคสุดท้ายว่าแล้วแต่จะคิด เขาขึ้นรถขับออกไป พินสุดาร้องกรี๊ดๆวิ่งตามทุบกระโปรงรถจนเสียหลักล้มลงอย่างเจ็บแค้น
ooooooo
   

กลับมาด้วยสภาพมีผ้าปิดแผลที่หัว เสื้อผ้าเปรอะเลือดและคราบกาแฟ กุเทพมาเคาะประตูห้องกานน กานนตกใจเมื่อเห็นสภาพหลาน “นายกุ นี่แกไปโดนอะไรมา”
“อย่าเพิ่งถามนะอาปลิว ขอผมเข้าไปข้างในก่อน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”
สองอาหลานคุยกันเคร่งเครียด กานนถาม “แล้วแกรู้มั้ยว่าไอ้ศิธามันหมายถึงใครที่ว่าบุกไปรื้อสตูฯแล้วถูกจับได้น่ะ”
“ผมใจร้อนไปเอง ถ้าอดทนฟังมันอีกสักนิดคงรู้” กุเทพรู้สึกผิด
กานนครุ่นคิด คนที่จะยอมเสี่ยงอันตรายขนาดนั้นเพื่อม่านมัสลินจะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่คิม กุเทพตกใจ ถึงจะเป็นคู่แข่งแต่เขาก็ไม่คิดอยากให้เป็นอะไร กานนนึกถึงวันที่ม่านมัสลินมาชวนเขาไปบ้านเก่า เพราะคิมไม่ว่าง ต้องเป็นคิมแน่ๆ...
ขณะเดียวกัน ดุสิตหงุดหงิดงุ่นง่านที่คิมยังไม่กลับมาเสียที ไม่ทันไร ลูกน้องเอาซองใส่เทปมายื่นให้ บอกว่ามีแท็กซี่เอามาให้ ย้ำว่าให้คนที่ชื่อดุสิตเท่านั้น มาจากคิมแล้วขับออกไปเลย ดุสิตต่อว่าลูกน้องที่ไม่ถามชื่อหรือจำเลขทะเบียนรถไว้ ลูกน้องอีกคนหน้าตื่นเข้ามารายงาน
“ไม่ได้เรื่องนายคิมเลยครับนาย สัญญาณโทรศัพท์จับได้ครั้งสุดท้ายที่สตูดิโอที่นายบอกนั่นละครับ”
ดุสิตหน้าเสีย รีบเอาเทปมาเปิดดู เกวลินถือถุงอาหารโผล่เข้ามาเซอร์ไพรส์ ว่าตนออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดุสิตตกใจ ขอร้องให้กลับบ้านไปก่อน เกวลินไม่โกรธกลับหัวเราะ ดุสิตรู้สึกเป็นห่วงจึงจะขับรถไปส่งบ้าน แต่เธอปฏิเสธ กระซิบบอกว่าตนจะไปเซอร์ไพรส์ศิธาอีกคน ดุสิตตาโพลงรีบห้าม
“ไม่ได้ ไม่ให้ไป กลับบ้านเท่านั้น เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“อะไรของแกวะ ก็บอกแล้วยังไม่กลับ วันนี้แกดูแปลกๆไปนะสิต มีอะไรให้เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย รึว่ามีอะไรเกี่ยวกับฉัน”
ดุสิตโบกมือไม่มี เกวลินจึงโบกมือบายจะไปหาศิธา ดุสิตทนไม่ไหวโพล่งออกมา
“ไอ้เก๋...เลิกโง่ได้แล้ว ก็ที่แกเดินกะเผลกอยู่อย่างนี้ก็ฝีมือไอ้ศิธานั่นแหละ”
“แกว่าไงนะ” เกวลินชะงักค่อยๆหันมาถาม
ดุสิตสีหน้าวุ่นวายใจ เกวลินถามย้ำ ดุสิตเอามือตบปากตัวเองว่าตนโกหกไม่อยากให้เธอไป เกวลินจ้องหน้าดุสิตอย่างคาดคั้นจะเอาคำตอบ
“ศิธาไม่เคยมาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลเลยสักครั้งเดียว บอกแต่ว่าอยู่เมืองนอก...สิตา ถ้าแกคิดว่าแกเป็นเพื่อนฉัน เล่าความจริงทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้เลย” เกวลินน้ำตาไหลอาบแก้ม
ดุสิตลังเลใจจะทำอย่างไรดี ตัดสินใจเล่าให้ฟัง
ooooooo
พินสุดากลับมาเล่นงานน้องชาย พีระพลโวยกลับว่ากุเทพทำร้ายศิธา ศิธาแค้นบอกจะไม่ปล่อยกุเทพไว้แน่ พินสุดาเอ็ดว่าเจ๊ากันเพราะเจ็บทั้งสองคน ถ้ายังราวีกุเทพ ตนจะฟ้องศักดาพ่อเขาให้หมดว่าทำเรื่องอะไรไว้บ้าง พีระพลหาว่าพี่สาวพาลใหญ่แล้ว พินสุดายังบอกว่าอะไรที่ให้ตนปิด ตนจะบอกพีระพลให้หมด
“ห...หา ว่าไงนะ ศิธามีอะไรปิดโก้อีกงั้นเหรอ”
ศิธาโกรธ ปึงปังจะกลับไป พีระพลตามแต่พินสุดาดึงไว้ให้เล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้นที่สตูฯ และใครที่เข้าไปขโมยเทป พีระพลตอบว่าคิม พินสุดานึกว่าคนไหน
“คิม ลี หุ้นส่วนฝั่งฮ่องกงของป๊าศิธา มันควงอยู่กับนังมัสลิน ก็คงเป็นเดือดเป็นแค้นแทนกันนั่นแหละ ลูกน้องศิธาเลยจัดการซะ”
พินสุดาถามอย่างร้อนรนว่าจัดการอย่างไร พีระพลตอบว่าอย่างที่รู้ๆ ศิธาออกตัวว่าเขากับพีระพลอยู่โซลกลับมาไม่ทัน พินสุดาใจหาย เมื่อมีความเป็นความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง...
รู้เรื่องจากดุสิตแล้ว เกวลินตรงมาหาม่านมัสลิน เธอตกใจคิดว่าเกวลินหนีออกมาจากโรงพยาบาล เกวลินว่าตนหายแล้ว
“เอาเถอะๆยังไงพี่ก็ยืนอยู่นี่แล้ว ถ้ารู้ว่าพี่มานี่เรื่องอะไร มัสจะพูดไม่ออก...ล่าสุดเธอได้เจอหรือได้คุยกับคุณคิมเมื่อไหร่”

   

No comments:

Post a Comment

My Blog List