เกวลินโบกไม้โบกมือไม่ให้ม่านมัสลินต่อว่ากานนทางโทรศัพท์ แต่เธอไม่สนใจฟัง พูดฉอดๆ “ถ้าจะโทร.มาเพราะเรื่องที่แม่ฉันไปอาละวาดที่บ้านแฟนคุณละก็ ฉันไม่มีอะไรจะคุยนะ ว่าไงล่ะ ทำไมเงียบ หรือกำลังคิดจะให้ฉันไปขอโทษแฟนกับว่าที่แม่ยายของคุณ หึๆลืมไปได้เลยนะคะ เรื่องวุ่นๆที่เกิด มันมีที่มาที่ไป ถ้าอยากรู้ คุณควรจะถามแฟนคุณดู”
ม่านมัสลินฟังกานนตอบ แล้วต้องประหลาดใจ “คุณว่าไงนะ...”
“ผมบอกว่าผมอยากเจอคุณ มัสลิน ให้ผมไปเจอคุณนะ คุณอยู่ที่ไหน”
“คุณกับฉันมีธุระอะไรที่ต้องเจอกันอีกเหรอคะ ยังสมควรที่จะเจอกันอีกเหรอคะ ฉันเคยบอกแล้วว่าเราต่างคนต่างอยู่ แค่นี้ชีวิตฉันก็ยุ่งยากมากพอแล้ว”
ม่านมัสลินคว้ากระเป๋าจะกลับ เกวลินชี้นิ้วให้เธอรู้ว่าในมือถือมีข้อความที่กานนส่งมาแต่เธอกลับโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินออกไป...จนแล้วจนรอด ม่านมัสลินก็อดมาที่ริมแม่น้ำที่เธอเคยมากับกานนไม่ได้ ยืนคิดอะไรสักพักก็นึกถึงท่าทางเกวลินที่พยายามจะบอกอะไร จึงลองกดมือถือดู เห็นข้อความที่กานนส่งมาให้กำลังใจและบอกรัก ก็ถึงกับตะลึง
“ดีใจที่เจอคุณนะ” เสียงกานนดังขึ้น
ม่านมัสลินสะดุ้งเงยหน้ามอง เลยต่อว่ามาเล่นตลกอะไรกับตนอีก กานนทำหน้างงๆพอเห็นเธอตวัดสายตามองมือถือจึงรู้ว่าเธอได้รับข้อความก็ดีใจ “คุณได้รับใช่มั้ย...”
“ฉันไม่สนุกด้วยค่ะคุณกานน”
“แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คุณมารอผมที่นี่”
“ฉันเนี่ยนะมาคอยคุณ เฮอะ คนอย่างคุณนี่ทำฉันพูดไม่ออกจริงๆ เอาล่ะ ถ้าไม่มีฉันอยู่ตรงนี้แล้วทุกอย่างคงจบเอง” ม่านมัสลินจะเดินไป กานนรวบตัวมากอดไว้จนเธอประจันหน้าเขา
“ผมไม่มีเวลาล้อเล่นกับใคร ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ผมรักคุณ ได้ยินจากปากผมแล้วใช่มั้ยมัสลิน คุณรอผมได้มั้ยมัสลิน ผมรู้ว่าคุณก็รักผม รอผมนะ ถ้าผมทำอะไรไปในเวลานี้มันก็เท่ากับว่าผมทำร้ายนายกุ”
“แล้วก็มธุริน...” เห็นกานนชะงัก ม่านมัสลินเอ่ย “ฉันจะถือว่าเราไม่ได้มาเจอกันที่นี่ ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยสักนิด”
“คุณจะประชดประชันผมเพื่ออะไร ผมเลือกที่จะพูดความจริงทุกอย่างก็เพราะหวังว่าคุณจะเข้าใจ”
“เข้าใจสิคะ ใครบอกว่าฉันไม่เข้าใจ คุณเห็นใจพี่กุเทพกับมธุรินแฟนของคุณ คุณต้องการเวลาให้คนของคุณลงตัว แต่ถามหน่อยเถอะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับฝ่ายคุณฝ่ายเดียวงั้นเหรอ”
“จริงสินะ ผมเองก็ลืมคิดข้อนี้ไปเลย คุณกำลังจะบอกผมว่าคุณเองก็มีคนอื่นงั้นสิ ไหนล่ะไหน...ไหน...”
“หยุดดูถูกฉันเดี๋ยวนี้นะ” ม่านมัสลินเสียฟอร์ม
“แล้วถ้าจะหมายถึงเจ้าตี๋ฮ่องกงคนนั้นละก็ ลืมไปได้เลย คุณไม่ได้ชอบเขาสักนิด”
“แต่ฉันรักเขา”
กานนหุบยิ้ม ม่านมัสลินยิ้มเหยียดประสานสายตากร้าว ก่อนจะเดินฉับๆจากไปไม่เหลียวหลัง ปล่อยกานนร้องเรียกให้กลับมาอย่างปวดร้าว
ooooooo
วันต่อมา คิมกับดุสิตกลับมาจากฮ่องกง คิมเคลียร์งานมอบหมายให้ดุสิตดูแลต่อเพราะตั้งใจจะไปสืบหาความจริงเรื่องคลิปม่านมัสลิน ว่ามาจากศิธาหรือเปล่า เพราะเขาคุ้นฉากในคลิป ดุสิตโวยว่าเรื่องมันจบไปแล้ว แต่คิมยอมไม่ได้และที่สำคัญเกวลินจะได้ตาสว่างเสียที
เสร็จจากงาน ดุสิตมาเยี่ยมเกวลินที่โรงพยาบาล ดุสิตแสดงความเสียใจที่ตอนเกิดเรื่องตนทำงานอยู่ฮ่องกงกับมาเลเซียคิดไม่ถึงเลยว่าศิธาจะกล้าทำถึงขนาดนี้ เกวลินงงเพราะจำเหตุการณ์ช่วงนั้นไม่ได้ จึงถามดุสิตว่ารู้จักศิธาแล้วหรือ ตนยังไม่เคยแนะนำให้รู้จักกันเลย ดุสิตอ้าปากค้างสงสารเพื่อนจับจิต ตั้งใจจะต้องรื้อฟื้นความทรงจำเกวลินให้ได้...
ถึงเรื่องจะคลี่คลาย แต่มธุรินยังหวาดกลัวว่าจะถูกเปิดเผยว่าตนเป็นคนสั่งทำคลิปเปลือยม่านมัสลิน จนเหม่อลอยไม่มีใจจะทำงาน พอเตชโทร.หาเธอจึงร้องไห้โฮออกมาอย่างอัดอั้น
เตชต้องกลับมาบ้านเพื่อต่อว่าบัวบงกช เธอเห็นหน้าเตชก็รู้สึกดีใจลึกๆแต่เขากลับโพล่งออกมาว่า “นี่คุณเลี้ยงลูกยังไงของคุณ ถ้าผมรู้ว่าคุณจะไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ผมไม่มีทางทิ้งให้ยัยเดียร์อยู่กับคุณเลย คุณคงทำกับลูกเหมือนที่คุณทำกับผม ไม่เคยรักไม่เคยใส่ใจ ลูกถึงต้องไปยึดเอาไอ้กานนเป็นที่พึ่ง แล้วก็ต้องมานั่งฟูมฟายเสียอกเสียใจแบบนี้”
“เกิดอะไรขึ้นกับยัยเดียร์” บัวบงกชถามงงๆ
“ก็จะอะไร คงโดนไอ้กานนมันหลอกเอาน่ะสิ ถึงร้องห่มร้องไห้เสียใจซะขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้เรื่อง”
บัวบงกชเริ่มจับใจความได้ จึงสวนไปว่า เขานั่นแหละที่ไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยสนใจว่าลูกคบใคร ทำอะไรผิดๆมาบ้างเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับกานนเลย แต่เพราะเรื่อง...บัวบงกชพูดไม่ออก ตัดสินใจเดินหนี เตชตามมาขวาง
“บัว ตลอดเวลาที่ผ่านมากับเรื่องของเรา คุณหันหลังให้ผมมาตลอด ผมฝืนใจยอม แต่นี่เรื่องของลูก ยัยเดียร์ก็ลูกผมเหมือนกัน คุณจะเดินหนีผมอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้กานนแล้วมันจะมีเรื่องอะไรอีก ทำไมยัยเดียร์ร้องไห้เสียมากมายอย่างนั้น”
บัวบงกชลังเล เตชไม่พอใจตวาดว่าเขาเป็นพ่อนะ บัวบงกชเจ็บแปลบทั้งหัวใจอยากจะพูดออกไปว่าใช่ เขาเป็นพ่อแต่แล้วเปลี่ยนใจเดินหนีความจริงไปดื้อๆ เตชกำหมัดอย่างอัดอั้น
เพราะความโกรธทำให้เตชบุกมาเอาเรื่องม่านมัสลินถึงบ้าน แป้นกับพัดช่วยกันขวาง เตชชี้หน้าต่อว่าเคยเตือนแล้วอย่ามายุ่งกับลูกสาวตน ม่านมัสลินโต้ว่าไม่เคยคิดจะยุ่งด้วย แต่มธุรินขยันมายุ่งกับตนเหลือเกิน เตชโกรธจัด
“เธอมันก็เหมือนแม่เธอนั่นแหละ อย่างลูกสาวฉันหรือกานนแฟนเขาก็เหอะ ไม่มีทางลดตัวมายุ่งกับเธอแน่นอน นอกซะจากว่าเธอจะใช้วิธีเดียวกับแม่ เที่ยวแถไปหาผู้ชายก่อน”
“ท่าทางคุณจะอ่านอะไรๆออกไปซะหมด ขอโทษเถอะค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะชอบแถเหมือนกันรึเปล่าคะ โดยเฉพาะตอนนี้ที่แถมาหาเรื่องฉันถึงบ้านแบบไม่กลัวจะถูกลากเข้าตาราง”
เตชโกรธที่ม่านมัสลินกราดเกรี้ยวไม่ลดละ ขู่ว่าจะทำลายบ้านหลังนี้เสียถ้าเธอไม่เลิกยุ่งกับกานน ม่านมัสลินให้กลับไปบอกลูกสาวให้เก็บว่าที่เจ้าบ่าวตัวเองไว้ให้ดีแล้วไล่เตชกลับไป เตชชี้หน้าว่ายอมรับแล้วใช่ไหมว่ามายุ่งกับกานนจริงๆ ม่านมัสลินโมโหจึงยั่วว่าอย่างตนผู้ชายดีๆเป็นฝ่ายเข้ามา เตชด่าว่าเธอหน้าด้าน
“ก็หน้าด้านน่ะสิ ไม่แปลกที่คนระดับอย่างฉันจะกลายเป็นคนหน้าด้าน แต่พวกผู้ดีอย่างคุณใช้วิชามารต่ำๆทำลายคนอื่นจะเรียกว่าอะไรดี ถึงจะสาสมกับความต่ำช้าสารเลวที่ทำเอาไว้”
“อะไรของเธอ”เตชตาวาวก้าวเข้าหาม่านมัสลิน
จิรดาเดินลงมาบอกเตชให้ปล่อยม่านมัสลินไป พอดีเสียงแตรรถดังขึ้น เตชยิ้มเยาะคิดว่ากานนมาจึงว่าจับได้คาหนังคาเขา แต่พอคนที่เข้ามากลายเป็นกุเทพ ถึงกับงงงัน กุเทพยกมือไหว้พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงดึงม่านมัสลินออกไป เตชไม่วายด่าไล่หลังว่าม่านมัสลินใจง่ายเหมือนแม่ จิรดาไม่โต้เถียง ยืนรับฟังน้ำตาไหล เตชแปลกใจที่เธอไม่อาละวาดจึงกลับไป
ผิดคาดที่จิรดาไม่เรียกหาเหล้า เธอกลับนั่งครุ่นคิดถึงภาษิต“ฉันมันงี่เง่าเอง ทำทุกอย่างประชดชีวิต คิดแต่จะเอาชนะคุณ ชนะบัวบงกช จนไม่เคยนึกถึงคุณหรือมัสลิน ที่ถูกนายเตชด่ามันก็สมแล้วล่ะ...ให้อภัยฉันนะคะ ภาษิต...”
กานนนั่งดื่มน้ำชากับเจ้าสัวทศ เจ้าสัวขำที่กานนทำตัวเหมือนปิดทองหลังพระ ทำดีแล้วไม่บอกให้ม่านมัสลินรู้ ว่าตัวเป็นคนจัดการเรื่องแถลงข่าวนั่น กานนได้แต่ถอนใจ เจ้าสัวถามเรื่องที่ให้ตามหาย่าเล็ก กานนนึกได้เล่าให้ฟังว่าคุณยายของม่านมัสลินเป็นคนเก่าแก่หมู่บ้านตลาดโบราณนั่น เขาจึงตั้งใจจะไปสอบถามท่าน เจ้าสัวตื่นเต้นให้กานนพาไปวันนี้เลย
ม่านมัสลินกำลังแนะนำกุเทพให้ม่านมุกรู้จัก ว่าเป็นหลานชายกานน ม่านมุกจึงคุยด้วยว่ากานนเจอกับตนที่โรงพยาบาลเลยรู้จักกัน กุเทพโล่งใจที่กานนพูดความจริง มือถือม่านมัสลินสั่นเธอหยิบมาดูเห็นชื่อกานนจึงตัดสายทิ้ง สักพักก็สั่นขึ้นอีก กดดูเป็นข้อความจากกานน...ผมต้องการความช่วยเหลือเรื่องคุณย่าเล็ก...ม่านมัสลินจึงขอตัวหลบออกมา
เธอโทร.หากานน เขาดีใจมากรีบบอกว่ากำลังไปที่บ้านเธอ ม่านมัสลินต่อว่าทำไมชอบทำอะไรตามอำเภอใจ กานนโบ้ยว่าคนขอร้องคือเจ้าสัวนั่งอยู่ข้างเขา ม่านมัสลินเจื่อนลงบอกว่าเดี๋ยวตนโทร.กลับ เธอสีหน้าว้าวุ่นใจ หันรีหันขวางจะทำอย่างไรดี ไม่อยากให้กานนเจอกับกุเทพ
แต่แล้วกานนขับรถมาจอดหน้าบ้าน เจ้าสัวเห็นพุ่มเฟื่องฟ้าหน้าบ้านเหมือนโดนสะกด เสียงม่านมุกในอดีตดังลอยเข้ามา“ดิฉันชอบเฟื่องฟ้าค่ะ เฟื่องฟ้าเป็นไม้ที่ไม่ต้องการการดูแล มันเติบโตเองได้ด้วยตัวมันเองในทุกสถานการณ์และทุกสภาวะไม่ว่าจะร้อน จะฝนหรือหนาว”
กานนเรียก เจ้าสัวสะดุ้ง เขาบอกว่ายังไม่ได้กดกริ่งเลย เจ้าสัวจึงเข้าไปจะกด เห็นเป็นกระดิ่งใบย่อม ยิ่งทำให้เขานึกถึงม่านมุก เพราะเป็นสิ่งที่เธอชอบ เจ้าสัวยิ่งสงสัย...ม่านมัสลินกำลังจะเข้าบ้านไปดูกุเทพ เสียงกระดิ่งทำให้เธอสะดุ้ง ม่านมุกให้ปิ่นไปดูว่าใครมา ม่านมัสลินรีบบอกว่าตนไปดูให้เอง เธอวิ่งมาเปิดประตูแล้วยกมือไหว้เจ้าสัวอย่างสุภาพอ่อนน้อม
“อ้าว คุณอยู่ที่นี่เองหรอกเหรอ แล้วก็ปล่อยให้ผมถามอยู่ตั้งนาน”กานนต่อว่า
“ไม่ใช่เวลาที่จะคอมเพลน ฉันกำลังจะหาทางบอกคุณ พี่กุอยู่ในบ้าน”
กานนเหลือบมองเจ้าสัว เจ้าสัวเข้าใจดี เพราะรู้ว่ากุเทพจะเข้าใจผิด“อืม ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ วันนี้ฉันเองก็ใจร้อนไปหน่อยเหมือนกัน หวังว่าคราวหน้าคงมีโอกาสได้คุยกับยายหนู”
เจ้าสัวไม่วายที่จะสอดสายตามองเข้าไปในบ้าน ม่านมัสลินกราบขอโทษ กานนประคองเจ้าสัวกลับไปที่รถ เผอิญม่านมุกเดินออกมา เธอมองผ่านหลังม่านมัสลินไปเห็นเจ้าสัวแวบๆถึงกับใจหาย ร้องถามม่านมัสลินว่าใครมา ม่านมัสลินตกใจรีบปิดประตู จังหวะที่เธอถอยออกทำให้ม่านมุกเห็นด้านข้างเจ้าสัว เธอชาวาบไปทั้งตัว เซจะเป็นลม ม่านมัสลินรีบประคองเข้าบ้าน
พอมาถึงโรงพยาบาล เจ้าสัวบอกกานนว่าตนชอบบ้านหลังนั้น กานนว่าชอบเขาก็ไม่ขายให้หรอก เจ้าสัวเอ็ด “ไอ้บ้า ฉันแค่รู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนั้นเสียเหลือเกิน”
“บ้านสวนคุณยายมัสลินสวยครึ้ม ผมเองยังชอบ มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้”
เจ้าสัวรำพึงว่า ต้นเฟื่องฟ้า พลันบุรุษพยาบาลเข็นเตียงผู้ป่วยมาอย่างรีบร้อน เจ้าสัวเห็นหน้าจำได้ว่าเป็นย้ง จึงรีบให้กานนไปสอบถามว่าคนไข้นั้นชื่ออะไรและป่วยเป็นอะไร...กานนหายไปสักพัก เจ้าสัวตรวจเสร็จออกมานั่งรอฟังผล กานนกลับมาบอกว่า คนไข้นั้นชื่อยงยุทธ
“เป็นไปได้ยังไง ทำไมมันเหมือนไอ้ย้งนักล่ะ แล้วนามสกุลอะไร”
“แซ่ตั้งครับ”
“งั้นก็เข้าเค้าอยู่นะ ย้ง ยงยุทธ มันก็ใกล้เคียง ปลิวช่วยปู่หน่อย หาข้อมูลต่อทีว่าเจ้าของไข้หรือญาตินายยงยุทธนี่เป็นใครมาจากไหนกัน”
“ทำไมปู่ถึงต้องอยากรู้เรื่องลุงคนนั้นจังครับ หรือคุณปู่รู้จัก แต่ถ้ารู้จักทำไมไม่เข้าไปหาเขาเลยล่ะครับ”
เจ้าสัวบอกว่าให้แน่ใจก่อนว่าใช่คนที่ทำให้เขาต้องพรากจากคนรัก กานนตื่นเต้นเพราะเจ้าสัวเคยเล่าว่า ย้งคือคนที่ย่าใหญ่กล่าวหาว่าเป็นชายชู้ ถ้าใช่ ความหวังของปู่เขาก็ใกล้เข้ามา
ooooooo
คนในบ้านสวนยังตกใจที่ม่านมุกเป็นลมได้อย่างไร แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเป็น กุเทพจะพาไปโรงพยาบาลแต่ม่านมัสลินขอปฐมพยาบาลเอง ทั้งที่แปลกใจอยู่เหมือนกัน
กุเทพกลับไป ม่านมัสลินนั่งนวดมือให้ม่านมุก ปากก็บ่น ว่ายายคงไม่ได้เป็นลมเพราะเห็นหน้าปู่ของกานนนะ ม่านมุกมือสั่น ครางถามว่าเขาชื่ออะไรและมาทำไม ม่านมัสลินจึงเล่าว่ากานนช่วยเจ้าสัวตามหาย่าเล็ก เห็นบ้านเดิมอยู่ที่เดียวกับที่ยายอยู่ ตนจึงบอกไปว่ายายดังมากแถวนั้นอาจจะรู้จักย่าเล็กของเขา ม่านมุกถามอีกครั้งว่าชื่ออะไร
“คุณย่าเล็กนี่ มัสจำไม่ได้ แต่คุณปู่รู้สึกจะชื่อสั้นๆว่าทศ คุณทศ รัตนรัช ยายรู้จักมั้ยคะ”
ม่านมุกถอนใจ คว้ายาดมมาดม ม่านมัสลินตกใจ “แย่ลงอีกแล้วเหรอคะยาย โอ...มัสไม่น่าหาเรื่องให้ยายต้องใช้ความคิดเลย ไม่เป็นไรนะคะ เรื่องคุณปู่คุณกานนเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะยาย”
“ไม่เป็นไร เพราะยายก็ไม่ได้รู้จักเขาหรอก ทศ รัตนรัช ยายไม่รู้จักคนชื่อนี้สกุลนี้เลย”
ม่านมัสลินผิดหวัง ม่านมุกถามว่าทำไมไม่พากานนกับปู่เข้าบ้าน ม่านมัสลินตอบว่า เพราะกุเทพอยู่ ตนไม่อยากให้เป็นเรื่อง ม่านมุกเข้าใจสถานการณ์ของหลานสาว แต่รู้สึกว่าเสียมารยาท จึงให้ม่านมัสลินไปเชิญมาใหม่ ตนอาจจะช่วยเหลือได้
“มัสว่าแล้วว่ายายของมัสน่ะใจดี คุณปู่ท่านแก่มากแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยจะดี การที่ท่านได้พบคนรักที่พลัดพรากกัน น่าจะทำให้ท่านมีความสุขมากขึ้นทีเดียวล่ะค่ะ”
ม่านมุกพยักหน้าเข้าใจ เพราะหัวอกเดียวกัน...
ม่านมัสลินกลับมาบ้าน แปลกใจเมื่อพัดเล่าว่าจิรดาไม่เรียกหาเหล้าเลย จิรดาเดินมาสีหน้าเรียบเฉยแต่ตาบวม
ม่านมัสลินตกใจถามแม่เป็นอะไรหรือเปล่า จิรดาแว้ดใส่อย่ามาจุ้น ทุกคนโล่งใจที่เป็นจิรดาคนเดิมแล้ว ม่านมัสลินอดถามไม่ได้ว่าเตชทำอะไรหรือเปล่า
“เลิกพูดถึงเขา ต่อไปไม่ว่าใครหน้าไหนก็เข้ามาวุ่นวายที่นี่ไม่ได้ ฉันรับรอง”
“แม่พูดจริงเหรอคะ แม่หมายความว่ายังไงคะ” ม่านมัสลินเขย่าแขนจิรดาอย่างตื่นเต้น
“ฮื่อ ฉันว่าจะเลิกยุ่งกับเขาสักทีดูสิว่าชีวิตมันจะหายวุ่นวายลงบ้างไหม ฉันเริ่มเหนื่อย”
ม่านมัสลินดีใจ บอกแม่ว่าตนมีงานให้ทำ จะให้เป็นผู้จัดการส่วนตัว อยากเรียกค่าตัวเท่าไหร่ก็ได้ จิรดาสีหน้าดีขึ้นรีบถามว่าแล้วตอนนี้มีงานมากหรือยัง เธอตอบว่ามากเลย พลันทางโรงพยาบาลโทร.เข้ามาแจ้งอาการของย้งว่าทรุดลงต้องเข้าไอซียู ม่านมัสลินจึงรีบไปดู จิรดาบ่นญาติก็ไม่ใช่ ไปรับผิดชอบอยู่ได้
ในขณะที่เจ้าสัวทศเล่าให้กานนฟังถึงอดีตวันที่ม่านมุกหิ้วกระเป๋าออกจากบ้าน เพราะถูกคุณนายใหญ่ไล่โดยใส่ความว่าเป็นชู้กับย้ง ตนนั่งรถกลับเข้ามา ย้งวิ่งมาขวางหน้ารถ เพื่อจะบอกว่าไม่เป็นความจริง ม่านมุกถูกใส่ร้าย แต่ตนยิ่งโกรธสั่งคนซ้อมย้งแล้วโยนออกไปจากบ้าน...
เจ้าสัวให้กานนไปดูว่าคนป่วยนั่นใช่ย้งหรือไม่ กานนเข้าไปในห้องไอซียูไม่ได้เพราะไม่ใช่ญาติ พลันเห็นม่านมัสลินวิ่งหน้าตื่นเข้ามา เขาดีใจมาก แต่เธอไม่ทันสนใจเขาตรงไปห้องไอซียูทันที สักพักก็ออกมา เธอกดมือถือโทร.รายงานทางบ้านว่าย้งปลอดภัยแล้ว เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าเหมือนมีคนกำลังตาม จึงวางสายแล้วล้วงกระเป๋ากำบางอย่างไว้ในมือ เหลียวกลับไปมองไม่มีอะไร แต่พอหันกลับมาเจอกานนยืนยิ้มอยู่ ตกใจถามว่าตามตนมาหรือ กานนแหย่
“เปล่า มาทำธุระที่นี่กำลังจะกลับ”
ม่านมัสลินจ้องตาเขาอย่างไม่วางใจก่อนจะบอกว่างั้นตนไปนะ กานนพยักหน้าแต่ยังเดินตาม เธอหันมาปรี๊ดใส่ “เอ๊ะคุณนี่ยังไงกันนะ”
กานนตอบว่ารถเขาจอดทางนี้ ว่าแล้วก็กดรีโมตล็อก ม่านมัสลินหน้าแตกเดินปึ่งไปขึ้นรถเก่าของตน เธอแช่งขอให้รถเขาสตาร์ตไม่ติด พลันรถตัวเองกลับสตาร์ตไม่ได้ เธอร้องเฮ้ย...ตนหมายถึงรถกานนไม่ใช่รถตน ที่สุดรถสตาร์ตติด เธอโล่งใจ หันไปแสยะยิ้มใส่กานน ทันทีก็ต้องร้องอ้าว เพราะเห็นกานนเปิดฝากระโปรงรถและโทร.เรียกช่าง เธอจำต้องลงมาถามไถ่ ได้ยินเขากำลังวีนใส่ช่างทางมือถือ แล้ววางสายอย่างหงุดหงิด เธอจึงถามเขาว่าจะติดรถตนออกไปไหม...
กานนนั่งในรถม่านมัสลิน เขาชมว่านั่งสบาย เธอโวยจะโกหกก็ให้มันเนียนหน่อย กานนหันมาถามว่ามาทำอะไรที่โรงพยาบาล เธอตอบว่าเยี่ยมญาติ เขาร้องว่าเหมือนกันเลย
“ใครถามไม่ทราบ”
“เค้าเรียกประโยคติดพัน ไม่อยากฟังก็ขอโทษ”
ม่านมัสลินถามจะลงตรงไหน กานนตอบว่าร้านอาหารไหนก็ได้แล้วชวนเธอทานด้วยกัน ม่านมัสลินปฏิเสธไม่หิว แต่ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมา กานนตีหน้าเฉยไม่หัวเราะเยาะ ม่านมัสลินจอดรถริมแม่น้ำ ให้กานนซื้อแซนด์วิชมาทาน กานนบ่น
“คุณนี่ดื้อใช้ได้เลยนะ จะอะไรนักหนาหิวก็หาอะไรกินจะมาฝืนอยู่ได้ ฟอร์มเยอะจังแม่คุณ จะว่ากลัวอ้วนก็ไม่น่าใช่ หุ่นอย่างคุณกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนหรอก” กานนกินยั่ว
“นี่ฉันอุตส่าห์ใจดีให้ติดรถมาด้วย แถมเสียเวลารอคุณกินอาหาร ยังจะกล้ามาว่าอีกเหรอ”
“ผมไม่ได้ว่า หวังดีต่างหากล่ะครับ คุณนี่คิดอะไรลบไปหมดเลยรู้ตัวมั่งเปล่า”
ม่านมัสลินสะบัดหน้าจะเดินหนี เด็กขายดอกไม้เข้ามาขอให้ช่วยซื้อ เธอยิ้มแหยๆว่าไม่มีเงิน กานนจึงเหมาหมด เด็กรับเงินดีใจวิ่งไป กานนวางดอกไม้ทั้งกำในอ้อมแขนม่านมัสลิน เธอยืนอึ้ง กานนประคองหน้าเธอประสานสายตา แล้วก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างอ่อนโยน
เวลาผ่านไป สองคนเดินเคียงข้างกันเงียบๆจนถึงรถ กานนพูดขึ้นว่าให้เธอขับรถกลับบ้านเลย เขาจะนั่งไปเป็นเพื่อน ม่านมัสลินย้อนถามแล้วเขาล่ะ เขาตอบว่าเขาดูแลตัวเองได้
“ดูแลตัวเองได้ แล้วให้ฉันขับมา...เอ๊ะ นี่ฉันงงไปหมดแล้วนะเนี่ย”
กานนบอกให้ขึ้นรถเขาขับให้ ม่านมัสลินเห็นดีเหมือนกันส่งกุญแจให้ เด็กขายดอกไม้วิ่งมาสะกิดหลังกานน ทวงเงินค่าจ้าง ม่านมัสลินจึงรู้ว่าเขาหลอก นึกได้ถามเรื่องรถเสียหลอกด้วยหรือเปล่า กานนรีบบอกว่าเรื่องนั้นจริงแท้แน่นอน ม่านมัสลินขึ้นรถ กานนพึมพำถ้าไม่หลอกจะได้อยู่ใกล้เธอแบบนี้หรือ...พอส่งม่านมัสลินหน้าบ้าน เขาให้เธอขับรถเข้าบ้านก่อนถึงจะกลับ เธอสบตาเขาเศร้าๆ ก่อนจะถามว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร
“อย่าหาเหตุผลเลยมัสลิน เรื่องของเรามันไม่มีเหตุผล แต่มันเป็นความรัก” เห็นม่านมัสลินจะแย้ง เขารีบดัก “อย่าพูดอะไรเชือดเฉือนผมอีกเลยมัสลิน ยังไงคุณก็เปลี่ยนใจผมไม่ได้หรอก อย่าว่าแต่คุณเลย ใครหน้าไหนในโลกนี้ก็เปลี่ยนใจผมให้เลิกรักคุณไม่ได้”
“แล้วฉันจะคอยดู อย่าเข้าใจอะไรผิด ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในการที่คุณจะนอกใจมธุริน ฉันแค่เป็นผู้ชม”
กานนจะยิ้มต้องหุบ “คร้าบ...โอยเล่นกันตัวเองไว้ทุกประตู ไม่มีศาลไหนตัดสินเอาโทษคุณได้หรอกครับคุณมัสลิน คุณนี่เอาตัวรอดเป็นที่หนึ่งเลยนะรู้ตัวรึเปล่า”
ม่านมัสลินเปรยว่าปากกัดตีนถีบอย่างตนได้แค่นี้ก็ดีถม กานนเตือนอย่าลืมที่เธอต้องช่วยเขาหาย่าเล็ก และเขาจะช่วยสืบหาคุณตาของเธอ เขายื่นมือให้จับเป็นการสัญญา จังหวะที่เธอยื่นมือมาจับ เขาดึงเธอเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว และก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่มเนิ่นนาน ก่อนจะกระซิบ
“คุณเป็นผู้ชมอย่างเดียวไม่ได้หรอกมัสลิน เพราะคุณมีส่วนในชีวิตผม...ผมรักคุณ”
ม่านมัสลินใจเต้นรัวเหมือนโลกหมุนคว้าง...เข้ามาอยู่ในห้องคนเดียว ม่านมัสลินสับสน พยายามสลัดความรู้สึกนั้นออกไป แต่ดูเหมือนมันจะตราตรึงอยู่ในใจเธอเสียแล้ว
ooooooo
กลับบ้านอย่างเหม่อลอยเช่นกัน เจ้าสัวเห็นกานนจึงทักว่าหายไปไหนเสียนาน แล้วถามถึงเรื่องย้ง กานนไม่ตอบแต่กลับขอปรึกษาเรื่องของตัวเอง เจ้าสัวรู้ทันว่าเกี่ยวกับม่านมัสลิน พอรู้ว่ากานนจูบเธอ เจ้าสัวถึงกับอุทาน...หาเรื่องแล้วเจ้าปลิว...
วันต่อมา จิรดาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นแม่เต็มตัว ดูแลเรื่องอาหาร ช่วยถือของมาส่งที่รถ ยื่นสมุดคิวให้อ่านว่ามีงานอะไรบ้างในวันนี้ พัดเห็นม่านมัสลินมีความสุขแล้วปลื้มใจไปด้วย...ขณะที่ม่านมัสลินขับรถ คิมโทร.เข้ามา เธอดีใจเพราะไม่เจอเขามาร่วมอาทิตย์ คิมบอกว่าเขามีงานต้องเคลียร์ เขาไม่ลืมจะช่วยเธอเรื่องตามหาคุณตา ม่านมัสลินไม่รู้เลยว่าคิมจะไปหาหลักฐานเอาผิดศิธาเรื่องคลิป
หน้าบริษัท คิมยื่นกุญแจรถสปอร์ตของตนให้ดุสิตและบอกว่าถ้าตนไม่กลับมาตนยกให้ ดุสิตเอ็ดว่าอย่าพูดเป็นลาง คิมไม่เข้าใจสำนวนไทย ม่านมัสลินโผล่มาทักทายเสียงใส แซวคิมว่าจะหนีงานไปเที่ยวไหน คิมไม่อาจบอกได้ ทันใดมีรถมอเตอร์ไซค์แล่นมาด้วยความเร็ว พุ่งเข้าใส่ ดุสิตรวบตัวคิมหลบล้มกลิ้งไปด้วยกัน ดุสิตจะเอาเรื่อง แต่คิมห้ามไว้เพราะตนยังไม่ตาย ดุสิตโวยว่าวันนี้คิมพูดจาไม่เป็นมงคลเลย ม่านมัสลินยังตกใจเพราะที่เธอเห็นเหมือนคิมถูกชนไปแล้ว คิมทำท่าผีหลอกเธออย่างสนุก แต่ม่านมัสลินกับดุสิตไม่สบายใจเลย...
เตชมากอดมธุรินปลอบว่าเขาได้ไปจัดการม่านมัสลินให้แล้ว มธุรินหน้าตื่นถามว่าม่านมัสลินพูดอะไรบ้างหรือเปล่า เตชแปลกใจทำไมลูกไม่รู้สึกดีขึ้น หรือว่ามีปัญหากับกานน มธุรินส่ายหน้าแล้วบอกว่าอยากให้เตชกลับมาอยู่บ้าน เตชมอง ลูกอย่างสงสัย
“ลูกมีปัญหากับคุณแม่ใช่มั้ย พ่อจะคุยกับแม่เขาให้ จำไว้นะเดียร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม่เขารักลูกมากนะ ลูกห้ามคิดเองเออเอง มีอะไรก็คุยกับแม่หรือเล่าให้พ่อฟังก็ได้ อยากจะพูดอะไรมั้ย”
มธุรินน้ำตาร่วงพรูบ่นว่าแม่ไม่ฟังตนเลย ให้ทำในสิ่งที่ตนไม่อยากทำจนตนไม่แน่ใจว่าแม่รักตนหรือเปล่า เตชเอ็ดไม่ให้พูดแบบนั้นและสอนว่าแม่อุ้มท้องเรามาตั้งเก้าเดือน มีหรือจะไม่รัก แถมย้ำว่าแม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่เขาเคยเห็นมา แต่พอมธุรินย้อนถามว่าทำไมต้องแยกกันอยู่ เตชพูดไม่ออก บัวบงกชก้าวเข้ามาขอให้เตชกลับมาอยู่บ้าน เตชดีใจแต่พอเธอพูดว่า
“ลูกต้องการคุณ”
แววตามีความหวังเขาหายวับไป “ถ้าด้วยเหตุผลนั้นก็ช่างเถอะ ลูกมีผมเสมอ ผมไม่มีวันจากลูกไปไหนไม่เกี่ยวว่าผมจะอยู่ที่ไหน”
มธุรินรีบบอกว่าไม่เพียงตนที่ต้องการพ่อ แม่ก็ต้องการให้พ่อกลับบ้าน มธุรินหันมาถามบัวบงกชว่าจริงไหม เตชรอฟังคำตอบ แต่บัวบงกชไม่อาจพูดได้ เตชเสียใจก้มหน้าเดินออกไปน้ำตาคลอ มธุรินวิ่งตามพ่อออกไป บัวบงกชยืนนิ่งน้ำตาพร่างพรูลงมาอย่างปวดใจเช่นกัน
ระหว่างที่กานนกำลังสั่งงานเลขาฯ เจ้าสัวมาหาเพื่อถามเรื่องย้งเพราะเมื่อคืนกานนเล่าแต่เรื่องม่านมัสลิน กานนนึกได้ขอสั่งงานให้เสร็จก่อน แต่พอหันมาเจ้าสัวหายไปแล้ว กานนตกใจรีบโทร.ขอความช่วยเหลือจากอุษยา...
เจ้าสัวมาที่โรงพยาบาล ขอเข้าเยี่ยมย้งเขาต้องสวมชุดฆ่าเชื้อเข้าไป พอได้เห็นหน้าย้งก็จำได้ เจ้าสัวบีบมือย้งเรียก “อาย้ง แกจริงๆด้วย นี่ฉันเองนะ...เจ้าสัวท้ง”
ใบหน้าย้งกระตุก เปลือกตาพยายามจะลืม ปากขยับเล็กน้อย เจ้าสัวดีใจที่ย้งได้ยิน...
ooooooo
No comments:
Post a Comment