“หลังๆนี่ดื้อค่ะ คุณท่านบอกว่าเกรงใจปิ่นที่ทำงานบ้านแล้วยังต้องคอยตามรับตามส่งตามคอยคนแก่อีก”
ม่านมัสลินจึงคิดว่าตนจะตามไปรับยายเอง แต่ปิ่นห้ามไว้เพราะม่านมุกหาหมอเสร็จคงแวะเยี่ยมย้งอีก และคงอยากอยู่คุยกับย้งนานๆ ม่านมัสลินนิ่งคิด...จากนั้น ปิ่นก็โทร.บอกให้พัดรู้ว่าม่านมัสลินอยู่บ้านสวน พัดโล่งใจและสงสารเธอมาก พอจิรดาสร่างเมา ตื่นขึ้นมาก็เรียกหาม่านมัสลิน พัดรีบมารายงานว่า เธอไล่ม่านมัสลินออกจากบ้านไปแล้วจำไม่ได้หรือ จิรดาโมโหที่พัดพูดไม่ดี จึงโวยอย่าคิดว่าเป็นคนของแม่ตนแล้วตนจะไล่ออกไปไม่ได้ พัดรีบบอกว่าอยากกลับไปอยู่บ้านสวนนานแล้ว และถ้าตนออก แป้นก็คงตามไปด้วย ใครจะทนอยู่กับคนสติแตกได้ จิรดาฮึดฮัด เปลี่ยนเรื่องแผดเสียงสั่งให้ไปหาอาหารเช้ามาให้ พัดส่ายหน้าอย่างระอา...
บริเวณรับยาในโรงพยาบาล กานนเดินคุยโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง เผอิญได้ยินเสียงประกาศเรียกม่านมุกรับยา เขาสะดุดหูหันมอง ทีแรกไม่เห็น แต่พอเดินกลับก็เห็นม่านมุกเข้าพอดี เขารีบเข้าไปสวัสดีแล้วมองหาใครบางคน ม่านมุกรู้แกวยิ้มๆ
“วันนี้ยัยมัสไม่ได้มาด้วยหรอกค่ะ”
“เหรอครับ เอ่อ...แล้วไม่ทราบว่ามัสลินเขาเป็นยังไงบ้างครับ”
“คุณถามยังกับว่าเกิดอะไรขึ้นกับยัยมัสอย่างนั้นล่ะ”
กานนสงสัย ม่านมุกคงไม่รู้เรื่องจากม่านมัสลินว่าเกิดเรื่องที่บ้านของเขาจนปู่เส้นเลือดในสมองแตก กานนจึงเล่าว่าเขาเป็นอาของกุเทพเพื่อนม่านมัสลิน พอดีเมื่อวานหลานชายชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านแล้วปู่ของเขาเกิดป่วยกะทันหัน ต้องเข้าไอซียู ม่านมุกเห็นใจบอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจคุยกับตนได้ เพราะตนก็มีเพื่อนนอนอยู่ห้องไอซียูเหมือนกัน ม่านมุกทำท่าจะแยกกลับ กานนรีบขอไปส่ง
ยิ่งกังวลใจที่ม่านมัสลินไม่ยอมเล่นหลังให้เตช แถมยังหนีออกจากบ้านไปแล้ว จิรดายังต้องมาเครียดเมื่อเตชสั่งว่า ให้ม่านมัสลินมาแถลงข่าวในงานเลี้ยงน้ำชาประจำปีของบริษัทอีก...
เริ่มสบายใจขึ้น เมื่อม่านมัสลินได้ทำขนมเพลินๆกับปิ่น เธอแปลกใจเมื่อเห็นว่าสวนกล้วยของม่านมุกออกผลงาม ปิ่นบอกว่าม่านมุกไม่ให้เอาไปขาย เธอเอาไว้แจกชาวบ้านกับทำขนมไปวันๆ ม่านมัสลินปลื้มในความมีน้ำใจของยาย แล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามปิ่นว่า ตนใช่ลูกของจิรดาหรือเปล่าปิ่นตกใจออกอาการพิรุธแต่กลบเกลื่อนว่าเหลวไหล ม่านมัสลินจึงถามใหม่ว่า เคยเห็นแม่อุ้มตนบ้างไหม ปิ่นอึกอักแล้วปัดว่า
ถามอะไรตอบยาก ตนจำไม่ได้แล้ว
“มัสดูรูปเก่าๆแล้วไม่เคยเห็นรูปที่แม่อุ้มหรือกอดมัสเลย”
ปิ่นปลอบอย่าคิดมาก เพราะจิรดาเป็นคนแบบนั้นเอง แม้แต่แม่ตัวเองยังไม่เคยกอดเลย ม่านมัสลินพยักหน้า ตนคงคิดมากไปเอง
ม่านมัสลินถือกระจาดไปเก็บมะนาวในสวนจะเอาไปฝากพัดที่บ้านเพื่อทำน้ำมะนาวให้ตนกิน พอหอบกระจาดออกมาที่ศาลา ก็ร้องบอกปิ่น แต่พอเห็นว่าเป็นกานนนั่งอยู่ก็ตกใจมาก กานนมองม่านมัสลินในชุดผ้าถุงอย่างชาวสวนก็อมยิ้ม
“ขำอะไร” ม่านมัสลินก้มมองตัวเองอย่างไม่มั่นใจ
“คุณน่ารักดีนะ”
ม่านมัสลินค้อนขวับ ก่อนจะถาม “ตกลงคุณจะบอกฉันได้ยัง ว่าคุณมาที่นี่ได้ยังไง”
กานนตอบยิ้มๆว่าเขาจ้างนักสืบตาม เธอตาโพลง กานนหัวเราะว่าเธอเชื่อคนง่าย แล้วยอมรับว่าเขามากับม่านมุกเพราะเจอท่านที่โรงพยาบาล กานนมองไปรอบๆแล้วชมว่าที่นี่น่าอยู่ว่าแล้วก็เอนตัวลงนอน
“อ้าว เฮ้ย แล้วคุณจะมานอนอะไรตรงนี้ล่ะ คุณ ลุกเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวคุณยายฉันมาเห็นเข้า” ม่านมัสลินแกล้งตะโกน แต่พอเห็นมดไต่หน้าเขาก็จดๆจ้องๆจะหยิบออกดีหรือไม่ “หลับจริงเหรอ มดไต่ขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องอีก เอ๊ะ...นี่ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้กลับบ้านเหรอเนี่ย” ม่านมัสลินเห็นเขายังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม พลันมีเสียงกรนเบาๆ เธอจึงเห็นใจเขาคงเพลียจริงๆ
ooooooo
เวลาผ่านไป ม่านมัสลินทำอาหารกลางวันตั้งโต๊ะให้ยาย กานนนั่งยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ ม่านมุกเชิญชวนให้ทานเยอะๆ นานๆม่านมัสลินจะลงมือทำอาหารเอง ม่านมัสลินรีบแก้ตัวว่าเกรงใจปิ่นที่มีแขกมากะทันหัน ปิ่นค่อนขอด แหมทำอย่างกับมากันเป็นสิบคน กานน อมยิ้ม
พลัน จิรดาเข้ามาขัดจังหวะ “อารมณ์ดีกันจัง วันนี้มีอะไรกินมั่ง อ้าวยัยมัส แกอยู่นี่เหรอ”
จิรดามองปราดเลยไปที่กานน ม่านมัสลินจำต้องแนะนำว่านี่แม่ตน กานนรีบสวัสดี จิรดาเข้าใจว่าเป็นคิม จึงทัก “อ้อ จำได้แล้ว เราเคยเจอกันที่บ้านใช่มั้ย”
กานนทำหน้างงๆ ม่านมัสลินหน้าเสียเพราะคนที่เจอคือ คิมไปขอโทษตนที่บ้านแล้วเจอกับจิรดา เธอเข้าใจว่า คิมเป็นแฟนที่ให้เงินมาใช้หนี้ ม่านมัสลินรีบบอกแม่ว่า กานนไม่เคยไปที่บ้าน จิรดาทำเสียงแปลกใจ “อ้าว...ถ้างั้นคนที่ฉันเจอ...”
ม่านมัสลินตัดบทขอตัวไปเอาอาหารมาเพิ่มแล้วเดินหนีไปเลย เข้าไปบ่นในครัวว่าเจอกานนทีไรมีเรื่องทุกที จิรดาตามเข้ามาโวยทำไมไม่บอกว่ากานนไม่ใช่คนที่เคยเจอ ม่านมัสลินย้อนถามว่าเคยฟังตนด้วยหรือ จิรดาเอ็ดอย่ามากวนประสาทกำลังอารมณ์ดีๆ
“เขาชื่อกานน...”
“นังมัสนี่ แกจงใจจะยั่วประสาทฉันใช่มั้ย ตอบแค่นี้ฉันจะรู้มั้ยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันบอกไว้เลยนะว่า ถ้าไม่มีหัวนอนปลายเท้าก็ให้ห่างเลยนะ แกกำลังจะดัง หัดเลือกคบคนซะบ้าง”
“ต่อให้คุณกานนจะดีหรือไม่ดี เขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับมัส เขาเป็นแฟนกับมธุริน”
จิรดาขมวดคิ้ว นึกได้ว่าเป็นลูกสาวเตช จึงเข้าใจว่าม่านมัสลินแผนสูง แก้แค้นด้วยการแย่งแฟน ม่านมัสลินต่อว่าคิดแบบนั้นได้อย่างไร กานนรู้จักกับยายจึงมาส่งเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับตนเลย แต่จิรดากลับยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย...
ธุรกิจที่กุเทพตั้งใจทำคือทำร้านเพชร เขาร่วมทุนกับมธุริน วันนี้มธุรินมาคุยกับอินทีเรียเรื่องการตกแต่ง ทั้งที่ข้อมือยังบาดเจ็บจากที่โดนพินสุดาทำมีดบาด กุเทพท่าทางเพลียๆเข้ามาขอบคุณมธุรินที่เหนื่อยแทนตนอยู่คนเดียว มธุรินยิ้มๆแล้วถามถึงอาการของเจ้าสัวทศ
“การผ่าตัดเรียบร้อยดี ตอนนี้รอคุณปู่ฟื้นอย่างเดียว ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็น่าจะคืนนี้ล่ะฮะ นี่คุณเดียร์ไม่ได้คุยกับอาปลิวเลยเหรอฮะ” เห็นมธุรินส่ายหน้า กุเทพจึงออกตัว “ตอนผมออกจากโรงพยาบาล อาปลิวยังเฝ้าอยู่หน้าห้องผ่าตัด สงสัยคงหลับอยู่ เลยไม่ได้โทร.หาคุณเดียร์”
มธุรินรู้สึกสงสารกานน แล้วเล่าให้กุเทพฟังว่าเมื่อคืนตนไปส่งม่านมัสลินที่บ้าน แต่ไม่กล้าเล่าว่าตนพูดอะไรกับเธอ แล้วชวนกุเทพไปเยี่ยมเจ้าสัวด้วยกัน ทันใด...พินสุดาเดินเข้ามา กุเทพแปลกใจว่ามาทำไม มธุรินหน้าเจื่อนกลัวพินสุดามาก่อเรื่องอีก
พินสุดาทำทีมาถามว่ามีอะไรให้ตนช่วยบ้าง กุเทพเอ่ยโกรธๆถ้าจะนัดกันให้ไปนัดที่อื่นไม่ใช่ที่ร้านของเขา พินสุดารีบถามว่า มธุรินไม่ได้บอกหรือว่า ตนก็เป็นหุ้นส่วนของร้านด้วย
“บอกเขาไปสิเดียร์ว่าเธอขายหุ้นให้ฉันครึ่งหนึ่ง”กุเทพหันขวับมาจ้องมธุริน เธอจึงโวยพินสุดา “โธ่กิ๊บ ทำไมเธอต้องทำให้มันเป็นเรื่องด้วย เธอตกลงกับฉันไว้ไม่ใช่เหรอว่าเธอจะเป็นหุ้นส่วนเงียบๆ ไหนเธอบอกว่าแค่อยากมีรายได้เพิ่ม ไม่ได้อยากออกหน้า ฉันก็ช่วยเธอแล้วไง แล้วดูเธอทำกับฉันสิ”
พินสุดาเบ้ปาก มธุรินแทบจะร้องไห้รู้สึกผิดสุดๆต่อกุเทพ เขาพอจะเข้าใจอะไรจึงบอกพินสุดาว่า ถ้าเธอก่อเรื่องวุ่นวายเมื่อไหร่ เขาจะถอนหุ้นปิดกิจการ เพราะนี่ไม่ใช่ธุรกิจสุดท้ายในโลกที่เขาจะทำแน่ พูดจบกุเทพเดินออกไป มธุรินจะตาม พินสุดารั้งไว้ถามว่าจะทิ้งกันหรือ มธุรินบอกว่าตนต้องไปเยี่ยมเจ้าสัวกับกุเทพ พินสุดาแย้งว่ามีเรื่องจะคุยด้วย
“ไว้ทีหลังเหอะ แค่นี้คุณกุเทพก็เข้าใจฉันผิดไปถึงไหนๆแล้ว” มธุรินแกะมือพินสุดาออกแล้ววิ่งตามกุเทพไป พินสุดาฮึดฮัด สบถว่ามธุรินโง่
มธุรินวิ่งตามมาขอโทษกุเทพที่แบ่งหุ้นให้พินสุดากุเทพเข้าใจเพราะรู้ว่าพินสุดาสามารถพูดจาหลอกล่อคนได้สารพัด อย่างมธุรินไม่มีทางทันเธอหรอก
“ถูกของคุณแล้วล่ะค่ะ เดียร์มันไม่เคยทันใคร แต่ยังไงเดียร์ก็ไม่มีเจตนาจะทำคุณเดือดร้อน ถ้าคุณเชื่อแค่นี้เดียร์ก็สบายใจ”
“โธ่ อย่าพูดอย่างนี้สิครับคุณเดียร์ โอเค เอาเป็นว่าเราลืมเรื่องกิ๊บกันดีกว่า ผมไม่ติดใจ”
มธุรินตาโพลงดีใจ กุเทพเผลอยิ้มเอ็นดูในความใสบริสุทธิ์ของเธอ...ผิดกับพินสุดายังเคียดแค้น ตั้งหน้าค้นหาเรื่องในอดีตของภาษิตกับบัวบงกชออกมาแฉให้ได้
ooooooo
สองยายหลาน ม่านมุกกับม่านมัสลินยืนส่งกานนที่รถหน้าบ้าน กานนไหว้ม่านมุก เธอยิ้มให้แล้วหันกลับเข้าบ้าน กานนจะขึ้นรถ ม่านมัสลินเรียกไว้ เพราะอยากถามอาการเจ้าสัวทศ กานนเข้าใจให้เธอทำใจให้สบายเพราะไม่ใช่ความผิดของเธอ ม่าน-มัสลินสบตากานน จิรดาแอบเอามือถือถ่ายภาพมุมที่ดูเหมือนสองคนใกล้ชิดกันมากไว้
วันต่อมา ม่านมัสลินมาถ่ายงานโฆษณาให้บริษัทคิม พอเสร็จงาน คิมก็ลากเธอไปร้านอาหารเพื่อถามว่ารูปเธอไปโผล่ที่บริษัทศักดากับเตชได้อย่างไร ม่านมัสลินไม่ตกใจอะไรเลยกลับไม่สนใจและบอกว่าตนไม่เล่นหนังพวกนั้นอยู่แล้ว แต่พอคิมบอกอีกเรื่องถึงจะตกใจ
“แล้วถ้าผมบอกว่าเมื่อวานเจอคุณเก๋ที่สตูฯของนายศิธาล่ะ”
“นายนี่อีกแล้ว แล้วพี่เก๋ไปเกี่ยวอะไรกับนายศิธา”
“นั่นไม่ใช่ไคลแมกซ์ ที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ เพื่อนสนิทของนายศิธาที่ชื่อว่านายโก้ แล้วนายโก้ก็คือน้องชายแท้ๆของยัยกิ๊บพินสุดาคู่แค้นของคุณ”
ม่านมัสลินฟังแล้วคิดลำดับตาม “คุณกำลังจะบอกว่า คุณพินสุดาเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด”
“ใช่แล้วครับ นายศิธามันไม่ชอบหน้าคุณอยู่เป็นทุน ทีนี้พอพี่สาวแฟน เอ๊ย เพื่อนสนิทสั่งให้เล่นงานคุณปุ๊บ มันก็เลยจัดการปั๊บ เคลียร์มั้ย”
ม่านมัสลินสะดุดหูว่าใครเป็นแฟนใคร คิมหัวเราะแล้วบอกว่าเขาไม่ชอบแฉใคร เอาเป็นว่าเธอต้องระวังตัว อยู่ใกล้ๆเขาแล้วจะปลอดภัย และช่วยกันหาทางให้เกวลินเลิกกับศิธาด้วย...
กุเทพกับมธุรินมาเยี่ยมเจ้าสัวจึงได้รู้ว่า กานนไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล และเจ้าสัวฟื้นแล้ว มธุรินพยายามโทร.หากานนแต่เขาปิดเครื่อง กุเทพจึงบอกว่ากานนอาจหลับอยู่ ตื่นแล้วที่บ้านคงบอกเอง เขาจะไปจัดการจองห้องพิเศษให้เจ้าสัว มธุรินขอไปเป็นเพื่อน สองคนดูเข้ากันดี...ทานข้าวเสร็จ ม่านมัสลินชวนคิมมาถามข่าวคราวเจ้าสัวที่โรงพยาบาล แต่พยาบาลไม่ยอมบอกเพราะไม่ใช่ญาติ ม่านมัสลินดึงคิมกลับ กุเทพกับมธุรินมาเห็นเข้าพอดี กุเทพหึงตรงเข้าผลักอกคิม
“คุณคิมเป็นเพื่อนมัสนะคะ พี่กุทำแบบนี้ไม่ถูกเลย” ม่านมัสลินเข้าขวาง
กุเทพเสียหน้าที่โดนต่อว่าต่อหน้าคิม ม่านมัสลินอธิบายว่าตนแค่มาถามอาการเจ้าสัว และชวนคิมมาเป็นเพื่อน มธุรินจึงบอกว่าเจ้าสัวฟื้นแล้ว ม่านมัสลินชวนคิมกลับอย่าง สบายใจขึ้น มธุรินตามมาที่ลานจอดรถ ขอคุยลำพังกับม่านมัสลิน
“ฉันเห็นข่าวที่เธอจะไม่เล่นหนังของพ่อฉันแล้วนะ เธอทำตามคำพูดดีนี่”
“ฉันตั้งใจอยู่แล้วว่าจะไม่เล่นหนังให้บริษัทพ่อคุณ ไม่เกี่ยวว่าคุณจะเคยคุยกับฉันรึเปล่า”
“ก็ดี ทีนี้ก็เหลืออยู่แค่เรื่องเดียว...เธอคงยังไม่ลืมที่เราคุยกันเรื่องกานนนะ”
ม่านมัสลินนิ่งอึ้งพูดไม่ออก มธุรินสรุปเองว่าตนเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่ใครๆพูด...ม่านมัสลินยังยืนนิ่งทั้งที่มธุรินกลับไปแล้ว คิมเข้ามาสะกิดถาม โดนว่าอะไรอีก ม่านมัสลินสะดุ้งเล็กน้อยส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร แล้วเดินเหม่อลอยไปขึ้นรถ
ooooooo
รูปที่จิรดาแอบเอามือถือถ่ายม่านมัสลินกับกานนไว้ ถูกเธอส่งไปให้หนังสือก๊อสซิปหลายฉบับ แล้ววางแผนเอาตัวม่านมัสลินไปแถลงข่าวงานเลี้ยงที่บริษัทของเตชให้ได้
จิรดาทำเป็นดีกับม่านมัสลินเรียกเธอว่าลูก ชวนไปทำบุญให้พ่อภาษิต ม่านมัสลินประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นดีใจ รีบไปแต่งตัว พัดท้วงม่านมัสลินด้วยความเป็นห่วง ดูมันไม่ชอบมาพากล แต่เธอไม่อยากขัดใจแม่
ทำบุญเสร็จ ม่านมัสลินสีหน้ามีความสุข ไม่ทันไรจิรดา ก็บอกเธอว่ามีธุระด่วนต้องไปทำให้ไปเป็นเพื่อนกันก่อน จิรดายังเรียกเธอว่าลูกทุกคำ ทำให้ม่านมัสลินยอมตามไปทุกแห่ง
แต่พอรถมาจอดหน้าบริษัทของเตช ซึ่งจัดงานที่ลานหน้าตึก ม่านมัสลินปวดร้าวในใจ
“ทำไมแม่ทำอย่างนี้คะ แม่หลอกมัส”
“ฉันหลอกอะไรแก ฉันบอกว่าจะมาทำธุระก็นี่ไงธุระของฉันที่ต้องพาแกมางานแถลงข่าว” จิรดาตีหน้าเครียด พิธีกรบนเวทีเอ่ยแนะนำนางเอกคนใหม่คือม่านมัสลิน “ได้ยินแล้วใช่มั้ย ถ้าแกอยากเห็นฉันตายก็ตามใจแก แกกลับไปเลย ฉันต้องเข้าไปเคลียร์กับคุณเตช”
จิรดาเอากุญแจรถใส่มือม่านมัสลินแล้วเดินเข้างาน เธอจำต้องเดินตามแม่เข้าไป จิรดาพาม่านมัสลินไปให้ช่างแต่งหน้าแต่งตัว พวกช่างกระซิบถามว่าสวยๆแบบนี้ไม่น่ามารับเล่นหนังโป๊แบบนี้เลย ม่านมัสลินสีหน้าเรียบเฉยสะกดอารมณ์ไว้ แต่ในใจเจียนจะระเบิด เผอิญงานนี้ เตชติดธุระต่างประเทศ จึงให้มธุรินมาดูแลแทน เธอเห็นภาพข่าวในหนังสือก๊อสซิป ก็ตกตะลึง
ทิพย์เดินตามรายงานความเรียบร้อยให้มธุรินฟัง พลันเห็นจิรดาตรงมุมเครื่องดื่ม ก็ไม่พอใจ ตรงเข้าไปจะเอาเรื่อง “ไหนพวกคุณบอกว่าจะไม่มาวุ่นวายที่นี่อีกแล้วไง”
“ต๊าย หนูเดียร์เองเหรอคะ สวัสดีค่ะ...ไม่ต้องไหว้อาหรอกค่ะ คนกันเองแท้ๆ” จิรดาจับมือมธุรินทักทายอย่างตื่นเต้น
“คุณคิดว่าต่อหน้าคนเยอะแยะ ฉันจะไม่กล้าไล่คุณใช่มั้ย” มธุรินมองเหยียดๆ
“โถ ไม่ต้องถึงกับไล่กันหรอก อีกเดี๋ยวคุณอาก็ไปแล้ว รอยัยมัสแถลงข่าวแป๊บเดียว”
“แถลงข่าว...ข่าวอะไร มัสลินบอกฉันว่าจะไม่รับเล่นหนัง”
“งั้นเหรอคะ เอ...สงสัยต้องฟังพร้อมๆกันดีกว่ามังคะ” จิรดาปรายตาไปบนเวที
มธุรินมองตาม พิธีกรประกาศเชิญม่านมัสลินขึ้นเวที แนะนำว่านี่คือนางเอกหนังรักสามชาติของบริษัท พิธีกรบรรยายเรื่องราวกว่าจะเฟ้นหานางเอกได้ ม่านมัสลินทนไม่ไหวขัดขึ้น
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่ามีการเข้าใจผิดกันค่ะ...คือที่ดิฉันมานี่ก็เพื่อจะแถลงข่าวว่า ดิฉันไม่ได้ตกลงรับเล่นหนังเรื่องนี้ค่ะ”
จิรดาหน้าถอดสี นักข่าวกรูเข้าสัมภาษณ์ ม่านมัสลินขอไม่ตอบสักคำถาม แล้วเดินหนีออกจากบริษัท จิรดาตามมาจิกด่าว่าทำแบบนี้เท่ากับอยากให้ตนตาย
“เรื่องนี้มัสทำตามใจแม่ไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะมันหมายถึงอนาคตของมัส ถ้ามัสไม่มีงานเพราะรับเล่นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา มัสจะเอาเงินที่ไหนไปไถ่บ้านล่ะคะ แม่เข้าใจมัสซะทีเถอะค่ะ”
ม่านมัสลินหันหนีจิรดา มาเจอมธุริน เธอจึงขอโทษที่มาที่นี่ มธุรินกลับยิ้ม ขอบคุณที่ทำตามที่ตนขอร้อง แต่ยังมีอีกเรื่อง มธุรินยื่นหนังสือก๊อสซิปให้ดูภาพ
“ฉันขอให้เธอเลิกยุ่งกับกานนไม่ใช่เหรอ”
ม่านมัสลินพูดไม่ออกมองภาพในหนังสือ จิรดาได้ทีทำเป็นตกใจแตะแขน “ว้ายตายแล้วยัยมัส นี่มันแฟนหนูเดียร์เขานี่ แล้วทำไมแกทำอย่างนี้ โถ...นี่หนูเดียร์คงเสียใจมากเลยสิคะ”
“อย่ามาถูกตัวฉันนะ สกปรกทั้งแม่ทัั้งลูก” มธุริน สะบัดแขนออก
ม่านมัสลินไม่พอใจ ขอให้ระวังคำพูดหน่อย จิรดารีบซ้ำว่า ให้มธุรินทำใจเสีย “มันเป็นเรื่องของเวรกรรมน่ะค่ะ แม่หนูเคยทำกับคนอื่นไว้ยังไง ถึงเวลากรรมตามสนองแล้วนะจ๊ะ”
จิรดาจูงม่านมัสลินไป มธุรินโกรธปากคอสั่น ส่งเสียงตามหลังให้กลับมาพูดกันก่อนว่าแม่ตนทำอะไรพวกเธอ จิรดาสะใจในขณะที่ม่านมัสลินสงสัยและชักหวั่นใจ
ooooooo
กานนกลับมาที่บริษัท เลขารายงานว่า อุษยามารอที่ห้องเป็นชั่วโมงแล้ว กานนกำลังจะเข้าห้อง กุเทพมาดึงไปคุยอีกมุมหนึ่ง เขาเอารูปในหนังสือก๊อสซิปให้กานนดู แล้วบอกว่าถ้ายังไม่พร้อมจะตอบคำถามก็ไม่ควรเข้าไป กานนตกใจภาพในหนังสือรีบแก้ตัวกับกุเทพ ว่าตนรู้จักกับยายม่านมัสลินจึงพาไปส่งที่บ้าน โดยไม่รู้ว่าเป็นยายของเธอ และบ้านก็คนละหลังกับที่กุเทพเคยพาเขาไป กุเทพไม่ติดใจ กานนจึงบอกว่าถ้าคิดจะสืบเรื่องนี้ไม่ยากเลย
“ไม่มีประโยชน์ มัสเจอเรื่องร้ายๆมาเยอะแล้ว ผมว่าเราอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ดีกว่า จะว่าไป อาปลิวสนิทกับมัสก็ดีแล้ว ได้อยู่ข้างผมเวลาคุณย่าหาเรื่องมัส”
กานนฟังแล้วสีหน้าผ่อนคลายลง กุเทพว่าเรื่องข่าวเขาจะช่วยพูดกับอุษยาให้เข้าใจเอง กานนรู้สึกผิดในใจต่อหลานชาย...
ขณะที่ม่านมุกกลับจากเก็บผักกับปิ่น จิรดาหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาโยนในบ้าน พร้อมกับตัวม่านมัสลินและไล่ให้อยู่ที่นี่ไปไม่ต้องกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน พอเห็นม่านมุก จิรดาก็พูดอย่างไม่เกรงใจว่า เชิญเลี้ยงกันเองเลย ม่านมุกไม่พอใจจะต้องคุยกับจิรดาให้รู้เรื่องในวันนี้ม่านมุกเดินตามจิรดามาที่รถ ต่อว่าจะมาทิ้งม่านมัสลินแบบนี้ไม่ได้ ถ้ายังเห็นตนเป็นแม่ ต้องพาม่านมัสลินกลับไป จิรดายิ่งโกรธ ย้อนถามว่าเป็นห่วงความรู้สึกหลานมากกว่า ลูกหรือ
“มันคนละเรื่อง แกอย่าเอามาปนกัน”
“ตั้งแต่เล็กจนแก่หัวหงอก หนูถามแม่ปากจะถึงหูว่าพ่อหนูอยู่ที่ไหน พ่อหนูเป็นใคร แม่ไม่เคยตอบ...นั่นมันไม่ทำร้ายจิตใจหนูเลยใช่มั้ย”
“จิรดา แกพูดเหมือนฉันไม่ได้เลี้ยงดูแก ถึงแกจะมีแค่ฉัน แต่ฉันก็เลี้ยงแกโตมาได้”
“หนูเคยบอกเมื่อไหร่เหรอว่าหนูอยากมีแค่แม่คนเดียว”
ม่านมุกปวดร้าวใจ “ทำไมแกพูดกับฉันแบบนี้”
“มากกว่านี้นังลูกไม่มีพ่ออย่างหนูก็พูดได้”
“ไม่เป็นไร แกจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้ แต่อย่าดึงยัยมัสเข้ามาเกี่ยว”
“ไม่...ตราบใดที่หนูยังไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร หนูจะทำให้ทุกคนทุกข์ยิ่งกว่าที่หนูทุกข์”
“รวมทั้งฉันด้วยใช่มั้ย” ม่านมุกเสียงเครือ
สีหน้ากร้าวของจิรดาคลายลงเป็นอึกอัก ก่อนจะตัดบทกลับไป ม่านมุกยืนตัวสั่นเทา ม่านมัสลินเข้ามาจับแขนด้วยความเสียใจ ขอให้อภัยให้แม่ของตน เพราะตนเข้าใจความรู้สึกของแม่และไม่เคยโกรธแม่เลย ม่านมุกมองหลานสาวอย่างสุดแสนเวทนา ช่างไม่รู้เลยว่าจิรดาไม่ใช่แม่แท้ๆ
ooooooo
มธุรินสับสนกับสิ่งที่ได้ยินจากจิรดา รีบมาหาบัวบงกชที่บริษัทแต่ไม่อยู่ จึงกลับไปทำงานที่ร้าน แต่ไม่มีกระจิตกระใจฟังอินทีเรียอธิบายผลงานตกแต่งร้าน พินสุดาเข้ามาโวยวายที่มธุรินไม่รับโทรศัพท์ มธุรินได้โอกาสให้พินสุดาฟังอินทีเรียไปแทน
หลังจากนั้นก็มานั่งทานกาแฟที่ร้าน พินสุดาไม่พอใจที่มธุรินไม่โกรธเคืองม่านมัสลินบ้างเลย มธุรินว่าตอนนี้ม่านมัสลินมีข่าวกับกานน พินสุดาก็น่าจะพอใจที่ไม่ใช่กุเทพ พินสุดายิ่งหงุดหงิด มธุรินทำทีเป็นเข้มแข็งชวนพินสุดาออกไปเที่ยวกัน
กานนกับกุเทพกำลังฟังหมอพูดถึงการดูแลเจ้าสัว ว่าต้องควบคุมเรื่องอาหาร ที่สำคัญอย่าขัดใจให้เครียดเป็นอันขาด กานนครุ่นคิดว่ามีเรื่องเดียวที่เจ้าสัวเครียดคือเรื่องตามหาเมียคนไทย...
คิมเห็นข่าวช่วงท้ายที่ม่านมัสลินปฏิเสธไม่เล่นหนัง พอเจอหน้าม่านมัสลินจึงยิงคำถามจนเธอตอบแทบไม่ทัน เสร็จงาน คิมอาสาไปส่งบ้านเพื่อซักถามต่อจนรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะจิรดา คิมเป็นห่วงชักชวนให้พักอยู่คอนโดฯเขาดีกว่า ม่านมัสลินเตือนว่าอย่าไปชวนสาวไหนอีกจะโดนตบเอา คิมทำหน้างงไม่เข้าใจ...กลับมาถึงคอนโดฯ คิมได้รับซองเอกสารจากพนักงานที่เคาน์เตอร์พอขึ้นห้องเปิดดู เขาดูไปคุยโทรศัพท์ไป มีรูปจิรดาสวมแว่นตาดำ รวมทั้งภาพที่จิรดาแอบถ่าย
“แน่ใจนะ ว่าเจ้าหนี้ทั้งหมดของเขามีเท่านี้ อืม...ดีมาก งั้นจัดการตามที่ผมสั่ง เร็วที่สุด” คิมสั่งเสียงเฉียบ...
ม่านมัสลินอาบน้ำเสร็จได้ยินเสียงจิรดากลับมา ก็เข้ามาดูเห็นเธอลงนอนทับผ้าปูที่นอนโดยที่กระเป๋ายังสะพายอยู่ จึงช่วยดึงออก แต่จิรดาปัดป่ายพลิกตัวหลบ ม่านมัสลินน้ำตารื้น ดึงมือแม่มาแนบแก้มรำพันว่าตนรักแม่จะหาทุกอย่างมาให้ที่แม่อยากได้ เธอครุ่นคิดจะทำอย่างไร
วันรุ่งขึ้น กานนขับรถไปหาบ้านเก่าของเจ้าสัวทศในซอยแถวเมืองนนท์ แปะคนเฝ้าเป็นชาวจีน ชรามากแถมหูตึงอีกต่างหาก แปะทักเขาว่าเสี่ยน้อย
“ฉันกานน เสี่ยใหญ่ ไม่ใช่กุเทพ”
“ล้อผมเล่นอีกแล้วเสี่ยน้อย” แปะเพ่งมองหน้ากานน และพูดจีนปนไทย
กานนจึงปล่อยเลยตามเลย แล้วจะเข้าไปหาหลักฐานในบ้าน อาจจะมีอะไรบ่งบอกให้ตามหาเมียคนไทยของเจ้าสัวได้ แปะบ่นเมื่อเช้าก็มีผู้หญิงมาขอดูบ้าน กานนประหลาดใจซักถามแต่ไม่ได้ความเพราะแปะฟังเป็นอีกเรื่อง...
ม่านมัสลินขับรถโฟล์คเต่าของเธอมาชวนคิมไปเป็นเพื่อน คิมกำลังมองโฉนดที่ได้มาแต่มันเป็นภาษาไทยจึงอ่านไม่ออก ม่านมัสลินเข้ามา เขานึกว่าลูกน้องจึงจะให้ช่วยดูให้ แต่พอเงยหน้ามาเจอม่านมัสลินก็ชะงัก รีบเอาของทับโฉนดนั้นไว้ แล้วปราดไปขวางเธอไม่ให้เข้ามาใกล้โต๊ะทำงาน จนเธอตกใจให้ถอยห่างออกไปหน่อยก็ได้ คิมหัวเราะแหะๆ
ม่านมัสลินชวนเขาไปดูบ้านเก่าที่ม่านมุกเคยอยู่ คิมนั่งรถม่านมัสลินไปเหงื่อแตกพลั่กเพราะแอร์ไม่เย็น แถมไม่มั่นใจว่าที่มาด้วยจะช่วยอะไรได้บ้าง
“ว่าแต่ทำไมคุณถึงมั่นใจว่าที่นั่นเป็นบ้านเดิมที่คุณยายคุณเคยอยู่ล่ะครับ”
“จะว่ามั่นใจก็คงไม่ใช่หรอกค่ะ แต่เท่าที่ถามคนละแวกนี้ดู เขาก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าบ้านที่เจ้าของเป็นเจ้าสัวร่ำรวยก็มีแค่หลังนั้นหลังเดียว”
คิมตำหนิที่เข้าไปคนเดียว ถ้าอาแปะลากไปทำอะไรจะว่าอย่างไร ม่านมัสลินไม่กลัวเพราะอาแปะแค่พูดกันไม่รู้เรื่องเท่านั้น...ระหว่างที่กานนรื้อค้นหีบเก่า ที่เคยฟังอุษยาเล่าว่า ใช้เก็บผ้าเก่าๆของคุณย่ากับรูปเก่าๆที่เจ้าสัวไม่เอาออกมาด้วยเพราะโกรธย่า ที่ไล่เมียคนไทยไป กานนเจอภาพภาพหนึ่งใส่กรอบซึ่งเก่ามาก พอหยิบก็หักเขาดึงภาพออกมาดูใต้ภาพมีชื่อเป็นอักษรจีน พยายามอ่าน มาน...มู่ เขารู้สึกว่าใกล้เคียงกับม่านมุก พลันได้ยินเสียงเอะอะของอาแปะ
อาแปะไม่ยอมให้ม่านมัสลินเข้ามา คิมช่วยเจรจาเป็นภาษาจีน แต่ด้วยความที่อาแปะหูไม่ดี จึงฟังเพี้ยนหาว่าพวกเขาเป็นขโมย คิมโมโหจะปีนเข้าไปให้ได้ ม่านมัสลินดึงให้ลง ลากกลับ...
ooooooo
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย บทประพันธ์ วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ฉายฉันท์
- 7 กันยายน 2554, 09:22 น.
No comments:
Post a Comment