Sunday, September 11, 2011

อ่านละครทวิภพ ตอนที่ 17 วันที่ 12 กย.54

อ่านละครทวิภพ ตอนที่ 17
เป็นอย่างที่มณีจันทร์หวั่นใจ ประยงค์เชื่อคำแนะนำของเธอ รวบรวมความกล้าปฏิเสธพ่อกับแม่ตัวเองว่าจะไม่ยอมออกเรือนไปกับหลวงเจนพาณิชย์เด็ดขาด ขออยู่เป็นสาวเทื้อไม่มีคู่ดีกว่า คุณหญิงสรเดชอดสงสัยไม่ได้ ชาติตระกูล ยศศักดิ์ และหน้าตาของ หลวงเจนพาณิชย์ไม่ได้ด้อยกว่าหลวงอัครเทพ ทำไมประยงค์ถึงไม่ยอมออกเรือนด้วย หรือยังทำใจเรื่องหลวงอัครเทพไม่ได้

“เรื่องหลวงเทพ ลูกทำใจได้แล้ว แต่ที่แต่งงานกับหลวงเจนไม่ได้เพราะคุณธรรมในใจเจ้าค่ะ ผู้ไม่มีคุณธรรม สักวันย่อมพินาศ แม้เจริญด้วยบุญเก่าที่ทำมา แต่ชีวิตย่อมเร่าร้อนไม่เป็นสุข ลูกคิดด้วยเหตุผลแล้ว มิใช่ด้วยอารมณ์แต่อย่างใด คุณพ่อคุณแม่จะเชื่อลูกสักครั้งได้ไหมเจ้าคะ”

คำพูดที่หนักแน่นของประยงค์ทำให้ท่านเจ้าคุณพ่อของประยงค์ และคุณหญิงสรเดชถึงกับอึ้ง...

ที่เรือนหลวงอัครเทพ มณีจันทร์ยังคงคุยกับคุณหญิงแสร์อย่างต่อเนื่อง เธอแปลกใจไม่หาย ประยงค์เพียบพร้อมขนาดนี้ ทำไมหลวงอัครเทพไม่ใจอ่อนกับประยงค์บ้าง

“เรื่องผู้หญิงของพ่อเทพ มีอะไรแผลงๆอยู่หลายอย่างเหมือนกัน” คุณหญิงแสร์ว่าแล้ว เล่าเรื่องในอดีตเมื่อครั้งที่หลวงอัครเทพต้องไปเรียนต่อที่ยุโรป ตอนนั้น คุณหญิงไม่สบายใจมาก เกรงลูกชายจะไปคว้าแหม่มมาเป็นเมีย ถึงขนาดบังคับให้ลูกสาบานต่อหน้าพระจะไม่คว้าเมียแหม่มกลับบ้าน

ครั้นหลวงอัครเทพเรียนจบกลับมา คุณหญิงแสร์หมั่นถามไถ่เรื่องประยงค์ แต่พอจะนัดไปดูตัว ลูกก็บ่ายเบี่ยงทุกทีไป ม้วนเล่าเสริมว่าเป็นเรื่องจริง บ้านอื่นเขามีเมียบ่าวก่อนเมียแต่งกันทุกคน พวกบ่าวหญิงที่นี่พากันระริกระรี้ แต่คุณหลวงไม่แลสักคน แถมมีทนายหน้าหอนอนเฝ้าหน้าห้อง ราวกับกลัวจะถูกเข้าหา

“สรุปว่าอย่างคุณหลวงเป็นโสดนี่แปลกกว่าคนอื่น” มณีจันทร์ถามยิ้มๆ

“แปลกมากเจ้าค่ะ ทีท่าเหมือนรอใครมานาน” ม้วนตั้งข้อสังเกต

“เพราะอย่างนี้ ตอนเรื่องแม่ประยงค์ ฉันถึงทำเฉย เสียเพื่อนเสียหลานไป ก็ได้แต่ทำใจ...แม่มณี หากไม่กระไรนัก ก็อย่าเพิ่งกลับไปทางโน้นเลยนะ แม่ขอร้อง” น้ำเสียงเว้าวอนของคุณหญิงแสร์ ทำให้มณีจันทร์ลำบากใจมาก ทางนี้ก็ห่วงส่วนทางโน้นก็เป็นกังวล...

ขณะเดียวกัน เจ้าคุณวิศาลคดีเรียกหลวงอัครเทพมาพบที่บ้านแจ้งข้อราชการให้ฟังว่า สายข่าวของท่านรายงานตรงกัน เรือรบฝรั่งเศสยังไม่ออกจากสยามง่ายๆ เพราะต้องการจะได้ทั้งลาว เขมร และสยามแต่ก็เกรงใจอังกฤษ ส่วนอังกฤษซึ่งครอบครองพม่าก็กลัวว่าหากฝรั่งเศสมีอำนาจในสยามจะกระทบถึงผลประโยชน์ของตัวเอง ในเมื่อเราตัวเล็กเกินกว่าจะทานอำนาจช้างสารได้ เราก็ต้องเสี้ยมให้ช้างสารชนกันเอง

“กระผมเข้าใจแล้วขอรับ คงได้เวลาไปเยี่ยม มร.จอห์นสักที” หลวงอัครเทพยิ้มเจ้าเล่ห์

ooooooo
หลวงอัครเทพไม่รอช้าเดินตามแผนเสี้ยมช้างสารทันที เขาแวะไปเตือน มร.จอห์นว่าเรือรบฝรั่งเศสยังจะจอดอยู่ที่สยามอีกนาน เพราะพวกนั้นมุ่งหมายจะเอาสยามให้ได้ มร.จอห์นทำท่าไม่สนใจ หาว่าเป็นแค่ข่าวลือ

“ท่านเห็นว่าทางเรามีการค้ามากที่สุดในสยาม เราจะตกใจกับการสงครามครั้งนี้ ท่านก็เลยอยากใช้พวกพ่อค้าอย่างกระผมเป็นเครื่องมือเพื่อสู้รบกับอีกฝ่าย แผนตื้นๆเช่นนี้ไม่ใช่กระผมไม่รู้”

“แสดงว่าท่านไม่เชื่อ”

“ก็ทำนองนั้น กระผมมีงานมาก หากสนใจสินค้าชิ้นไหนหยิบไปได้เลย กระผมขอมอบให้ด้วยความเคารพ ตัวกระผมคงต้องขอตัวก่อน” มร.จอห์นค้อมหัวให้หลวงอัครเทพ ก่อนจะออกจากห้างไปอย่างเร่งรีบ

หลวงอัครเทพสงสัยท่าทางร้อนรนของ มร.จอห์น ชวนขาบลอบตามไปติดๆ เห็นเขาตรงไปหาหลวงเจนพาณิชย์ที่ร้านขายเหล้าดอง ชักชวนให้หลวงเจนพาณิชย์กลับมาทำงานกับตนเองอีกครั้ง หลวงเจนพาณิชย์เห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองยอมก้มหัวรับใช้แต่โดยดี มร.จอห์นต้องการให้ทำงานอะไร ขอให้บอกมาได้เลย

“กระผมได้ยินมาว่า พวกฝรั่งเศสจะยังอยู่ในสยามอีกนาน ท่านไปรวบรวมข้อมูลจากทางราชการมาให้กระผมหน่อย” มร.จอห์นสั่งเสร็จ ผลุนผลันออกจากร้านขายเหล้าดอง หลวงอัครเทพได้ยินทุกอย่าง ที่แท้ มร.จอห์นต่อหน้าทำเป็นไม่สนใจ แต่ลับหลังกลับวิ่งวุ่นหาข้อมูลแบบนี้เข้าทางแผนของเรา จากนั้น หลวงอัครเทพชวนขาบสะกดรอยตาม มร.จอห์นต่อ เห็นเขาตรงลิ่วไปที่บ้านเมอร์ซิเออร์ปิแอร์

“เขาไม่ใช่แค่เดือดร้อน แต่ถึงขั้นเดือดร้อนมากทีเดียว แบบนี้แหละ จุดประสงค์ของเรา ให้พวกเขาลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง” หลวงอัครเทพยิ้ม พอใจที่แผนการสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่ง...

ด้าน มร.จอห์นไม่อ้อมค้อมทันทีที่เจอหน้าเมอร์ซิเออร์–ปิแอร์ ถามตรงๆว่าทางฝรั่งเศสมุ่งหมายจะเอาสยามให้ได้จริงหรือ เมอร์ซิเออร์ปิแอร์บอกปัดว่าตัวเองเป็นแค่ข้าราชการระดับล่างไม่รู้นโยบายระดับสูง

“ไม่รู้หรือไม่อยากบอก...นิ่งเฉยเยี่ยงนี้ แสดงว่าเป็นจริง โอเคถือว่ากระผมรับรู้แล้ว คงต้องขอลากลับ”

“สมมติว่าท่านรับรู้แล้วท่านจะตอบโต้หรือไม่” เมอร์ซิเออร์ปิแอร์ถามหยั่งเชิง

“กระผมมาจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน กระผมคงไม่ยอมอยู่เฉยกับเรื่องนี้หรอก” มร.จอห์นว่าแล้วเดินยืดอกกลับไป เมอร์ซิเออร์ปิแอร์มองตาม อดเป็นกังวลกับท่าทางหยิ่งผยองของ มร.จอห์นไม่ได้
   


 
ooooooo

ที่เรือนหลวงอัครเทพ เจ้าคุณวิศาลคดีได้ฟังรายงานจากหลวงอัครเทพแล้วพอใจมาก ถึงจะไม่รู้ว่า มร.จอห์นกับเมอร์ซิเออร์ปิแอร์คุยอะไรกัน แค่เห็น มร.จอห์นเดือดร้อนใจก็ถือว่าแผนสำเร็จแล้ว เจ้าคุณวิศาลคุยข้อราชการเสร็จยังไม่ยอมกลับ ได้ข่าวว่ามณีจันทร์ไม่สบายเลยถือโอกาสนี้ขอเข้าเยี่ยม คุณหญิงแสร์กับหลวงอัครเทพลอบสบตากันไม่สบายใจ เจ้าคุณวิศาลคดีให้ความสนใจมณีจันทร์มากขนาดนี้เลยหรือ...

ครู่ต่อมา เจ้าคุณวิศาลคดีไปหามณีจันทร์ซึ่งนั่งพักผ่อนอยู่ที่ศาลากลางสวนกับม้วน เห็นเธอหน้าตาสดใสก็ดีใจที่หายป่วย ขอบคุณฟ้าที่ประทานมณีจันทร์มาให้ เพราะเธอช่วยงานราชการได้มาก มณีจันทร์ปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่เพราะฟ้า แต่เพราะจิตวิญญาณของท่านเจ้าคุณต่างหากที่ไปตามเธอมา เจ้าคุณวิศาลคดีจำเรื่องตัวเองถอดจิตวิญญาณไม่ได้ ได้แต่มองหน้ามณีจันทร์งงๆ

“ท่านคงเข้าใจลำบาก แต่อิฉันรู้สึกเป็นพระคุณอย่างยิ่งที่ท่านช่วยให้อิฉันได้พบกับหลวงเทพ...อิฉันรักและเคารพท่านเหมือนพ่อ มิอาจเป็นอื่นไปได้” มณีจันทร์ตัดสินใจพูดตรงๆเพื่อตัดปัญหา

“ทำไมจู่ๆพูดเรื่องนี้...หรือว่าเพราะรูปพวกนั้น...หล่อนคงเข้าใจไปว่า...ฉัน...” เจ้าคุณวิศาลคดีเข้าใจความนัยที่มณีจันทร์พูดถึงกับหัวเราะชอบใจ คราวนี้มณีจันทร์เป็นฝ่ายงงไม่รู้ท่านหัวเราะเรื่องอะไร

“หล่อนพูดจาเปิดเผยตรงไปตรงมา ช่างกล้าหาญสมเป็นแม่มณีผู้ไม่มีใครเสมอเหมือน”

“แปลว่าท่านเข้าใจอิฉันแล้วใช่ไหมเจ้าคะ”

เจ้าคุณวิศาลคดีไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ได้แต่บอกว่าถ้าเป็นอย่างที่มณีจันทร์เล่าว่าท่านเป็นคนพาเธอมา แสดงว่าเราสองคนผูกพันกัน แล้วเดินหัวเราะเสียงดังกลับขึ้นเรือนใหญ่ ทิ้งให้มณีจันทร์นั่งงง จากนั้น เจ้าคุณวิศาลคดีแจ้งคุณหญิงแสร์กับหลวงอัครเทพว่าเย็นนี้คงอยู่กินข้าวด้วยไม่ได้ มีนัดสำคัญเอาไว้

“เรื่องงาน คิดอ่านประการใดต่อขอรับ” หลวงอัครเทพถามอย่างร้อนใจ

“ยังมีอะไรให้ทำอีกมาก บางทีอาจจะต้องลงทุนจัดเลี้ยงพวกเขา เราจะไม่เสี้ยมแต่เฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส แต่จะเสี้ยมเยอรมัน โปรตุเกส ฮอลันดา หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา...

เอาล่ะ...คราวหน้าจะมาอีกจะมาคุยกับแม่แสร์เรื่องแม่มณี” เจ้าคุณวิศาลคดียิ้มมีเลศนัย คุณหญิงแสร์ตกใจท่านเจ้าคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับตน

เจ้าคุณวิศาลคดีขอกลับไปเรียบเรียงก่อน คราวหน้าจะมาคุยด้วย วันนี้ต้องรีบไป คุณหญิงแสร์มองหน้าลูกชาย กลุ้มใจมากได้แต่หวังว่าคงไม่ใช่จะมาทาบทามขอมณีจันทร์

ooooooo

ณ ภพปัจจุบัน ทันทีที่ไรวัตรู้ว่าที่กุลวรางค์ไม่ยอมรับรักตรองเพราะคิดว่าตรองโลเล ชอบมณีจันทร์อยู่แล้วยังมากุ๊กกิ๊กกับเธออีก เขารีบไปหาตรองที่มหา- วิทยาลัยบอกเรื่องนี้ให้รู้ ตรองไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร เกรงไรวัตอาจเอาข้อมูลปลอมๆมาแกล้งเขาอีก

“ฉันมีหน้าที่มาบอกนายแค่นี้ นายจะเชื่อฉันหรือไม่เชื่อก็ตามใจ จะไขว่คว้าเธอหรือจะปล่อยให้หลุดมือไปเพราะความขี้ขลาดก็ตามใจนาย” ไรวัตพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ตรองยืนครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น

ooooooo

มณีจันทร์อยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำ จึงเดินไปเล่นกับกลุ่มเด็กๆที่แอบเข้ามาเล่นในสวนบ้านหลวงอัครเทพ หัวหน้าพวกเด็กๆ ชื่อบัว เป็นลูกสาวของคุณพระอยู่ข้างบ้านนี่เอง และเป็นแม่ของคุณย่าของกุลวรางค์ที่มักจะเล่าเรื่องมณีจันทร์ให้คุณย่าฟังอย่างชื่นชม บัวสอนให้มณีจันทร์เล่นต้องเต ขณะมณีจันทร์ บัว และพวกเด็กๆกำลังเล่นกันสนุกสนาน หลวงอัครเทพโผล่เข้ามาขัดจังหวะ บัวเสียดายมากที่ไม่ได้เล่นกับมณีจันทร์ต่อ...

No comments:

Post a Comment

My Blog List